แม่ร้องสื่อ ลูกชายถูก ตร.วังน้อย ใช้ “ถุงดำ” คลุมหัว “ซ้อมบังคับยัดคดี” ขืนใจอนาจาร ผกก.วังน้อย สั่งสอบลูกน้อง หากผิดจริงต้องถูกดำเนินคดี
เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ นายเอนก ที่ถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย จับกุมในคดีลักทรัพย์ แต่กลับถูกนำ ถุงดำคลุมหัว และทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ บริเวณใบหน้าตามร่างกาย
นางเหมย กล่าวว่า ตนเป็นห่วงลูกชายมาก ตั้งแต่ถูกจับกุม และทราบว่าถูกซ้อม ก็เครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับ พยายามหาเงินมาประกันลูกชาย ทั้งนี้ไม่ว่าลูกชาย จะทำผิดจริงหรือไม่ แต่ตำรวจไม่น่าซ้อมลูกชายแบบนั้น และ ไม่คิดว่าตำรวจ จะยังใช้วิธีการแบบนี้กันอยู่ เมื่อได้เห็นสภาพลูกชาย ก็ตกใจมาก ตาบวมปูด มีรอยพกช้ำตามร่างกาย
ยอมรับได้ หากลูกชายทำผิดจริง และถูกดำเนินคดี แต่ยอมรับไม่ได้ ที่ซ้อมให้รับข้อหาข่มขืนอีก ซึ่งลูกชายบอกว่า ไม่ได้ทำ จึงอยากร้องเรียนขอความเป็นธรรม อีกทั้งตอนนี้ยังไม่สามารถประกันตัวลูกชายได้
ด้าน นายอนุสรณ์ แฟนของ นายเอนก เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.วังน้อย นำหมายจับ ในคดีชิงทรัพย์ มาจับกุม นายอเนก ที่ทางเข้าหมู่บ้าน ใน อ.วังน้อย จากนั้น ได้ควบคุมตัวไปสอบสวน ตนติดตามไปด้วย
นายอเนก รับสารภาพว่า ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์จริง พร้อมกับสืบสวนขยายผล ตามยึดคืนโทรศัพท์มือถือของกลาง พร้อมกับสอบสวน นายเอนก ให้ยอมรับสารภาพ ในคดีข่มขืนด้วย แต่ นายอเนก ปฎิเสธ
ระหว่างนั้นมี ตำรวจนายหนึ่งบอกว่า ให้เอา ถุงดำคลุมหัว มัน จากนั้นตำรวจก็เอาถุงดำมาคลุมหัว นายเอนก ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ ตำรวจจึงพาตนออกจากห้องสืบสวน ระหว่างตนได้ยินเสียง นายเอนก ถูกทำร้ายร่างกาย ให้รับสารภาพข้อหาข่มขืน แต่ นายอเนก ไม่ยอมรับ รับเพียงคดีจี้ชิงทรัพย์เท่านั้น ได้ยินเสียงออกมาจากห้องอีกว่า “มึงอย่ามาเก่งกับกู” หลังจากการสอบสวนเสร็จ ได้เข้าไปพบกับ นายอเนก ได้พูดคุย นายอเนก บอกกับตนว่า ถูกตำรวจเอาถุงดำคลุมหัว และซ้อม เมื่อพยามสอบถามตำรวจว่า ทำไมต้องซ้อมกันด้วย ตำรวจบอกว่า ไม่มีการซ้อม ตนจึงถามว่า แบบนี้ตนแจ้งความเอา ผิดตำรวจได้ไหม ตำรวจบอกว่า ถ้ามีหลักฐาน จำได้ว่าใครเป็นคนซ้อม ก็แจ้งความดำเนินคดีได้ ตนยืนว่า ตนเห็นเหตุการณ์ ตำรวจเอาถุงดำคลุมหัว ก่อนที่จะออกมาจากห้อง และ นายเอนก ยืนยันว่า คนที่ซ้อมก็คือตำรวจ ที่เอาถุงดำมาคลุมหัว จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม
ล่าสุด มีรายงานว่า นายอเนก เกิดความเครียด ที่ถูกตำรวจซ้อม และแจ้งข้อหาข่มขืนเพิ่มอีก จึงได้กินน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน ผู้สื่อข่าวจึงโทรสอบถามข้อเท็จจริง กับทาง พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ในเบื้องต้น ให้ข้อมูลว่า ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว จากครอบครัวของผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุม
ทั้งนี้ ได้ให้ผู้เสียหาย แจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจ ที่กระทำความผิด ซ้อมผู้ต้องหา พร้อมส่งตัวผู้ต้องหา ไปตรวจร่างกาย เพื่อประกอบสำนวน และจะเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวน หาข้อเท็จจริงต่อไป ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และหากตำรวจทำผิดจริง ก็ต้องรับผลในสิ่งที่ตัวเองทำ
#สืบจากข่าว รายงาน