วันเสาร์, กันยายน 21, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมสืบนครบาล และ สืบสวน รุ่น 111 ยุทธการปราบบอย หนุ่มใช้ความรุนแรงในครอบครัวทั้งเก่าและใหม่

Related Posts

สืบนครบาล และ สืบสวน รุ่น 111 ยุทธการปราบบอย หนุ่มใช้ความรุนแรงในครอบครัวทั้งเก่าและใหม่

เมื่อประชาชนต้องการความช่วยเหลือให้สืบนครบาลติดตามตัว “บอย หนุ่มคลั่งติดยาเสพติด” ชอบใช้ความรุนแรง ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเมียและลูก และกักขังหน่วงเหนี่ยวจนเคยตัว ทั้งยังตามข่มขู่รังควานเมียคนปัจจุบันและลูกจนหวาดผวาไม่เป็นอันกินอันนอน

เมื่อภรรยาได้ขอความช่วยเหลือเข้ามา สืบนครบาลและนักเรียนสืบสวน 111 ตรวจสอบพบว่าบอยมีพฤติกรรมโดยมีหมายจับทำร้ายร่างกายฯภรรยาคนเก่าจนทนไม่ได้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้ทำการสืบสวนทุกวิถีทางกว่า 3 วัน 3 คืน จนพบว่าผู้ต้องหาได้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่ และหลบหนีมากบดานอยู่ใน กรุงเทพฯ ย่านลาดพร้าว83 ถึงแม้ว่าจะติดตามตัวได้ยากแต่ก็ไม่รอดพ้นฝีมือสืบนครบาลและนักเรียนสืบสวน 111 จับกุมจนได้ตัวนายบอย ตามหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกายสาหัสและก่อความรุนแรงในครอบครัวที่เคยก่อเหตุไว้กับภรรยาเก่าอีกคน ได้รับคำขอบคุณจากผู้เสียหายซึ่งไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.

สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.๑ บก.สส.บช.น. นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 จับกุม

นายธีรศักดิ์ หรือบอย (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 39 ปี ที่อยู่ตามบัตร เลขที่ 91 หมู่ 8 ตำบลทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับ : หมายจับศาลอาญา ที่ 2235/2566 ลง 13 กรกฎาคม 2566 ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและกระทำความรุนแรงในครอบครัว

สถานที่จับกุม : บริเวณหน้าบ้านเช่า(ไม่ทราบเลขที่) ซอยลาดพร้าว 83 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ทางคดีก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่านายธีรศักดิ์ หรือบอย บุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2235/2566 ลง 13 กรกฎาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและกระทำความรุนแรงในครอบครัว” ได้หลบหนีหมายจับมากบดานพักอาศัยอยู่บริเวณบ้านเช่าของเพื่อนสนิทภายใน ซอยลาดพร้าว 83 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมไปถึงบริเวณหน้าบ้านเช่า ซอยลาดพร้าว 83 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง จังหวัดกรุงเทพมหานครพบ นายธีรศักดิ์ฯ ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าริมถนนดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้แก่ นายธีรศักดิ์ฯ ทราบ พร้อมกับแสดงหมายจับฉบับดังกล่าวให้ นายธีรศักดิ์ฯ ดู อ่านให้ฟัง และให้อ่านด้วยตนเองจนเข้าใจข้อความตามหมายจับเป็นอย่างดีแล้ว นายธีรศักดิ์ฯ ให้การรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อนแต่อย่างใด พร้อมทั้งให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ์พร้อมกับข้อกล่าวหาข้างต้น ให้แก่ นายธีรศักดิ์ฯ ทราบ จนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว จากนั้นจึงจับกุมตัว นายธีรศักดิ์ฯ จัดทำบันทึกจับกุม และนำส่ง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีประวัติการต้องโทษ
1.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ปี2554 สภ.ห้วยยอด จว.ตรัง
2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ปี2559 สน.คันนายาว จึงทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้ต้องหให้การรับว่าเคยถูกจับเมื่อปี 2554 ในคดีข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยาเก่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระทำความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาคดี แต่ได้หลบหนีไประหว่างชั้นพิจารณาคดีในชั้นศาล ต่อมาได้มาอยู่กินกับภรรยาใหม่มีลูกด้วยกันสองคนแต่นายบอยก็ยังไม่เลิกนิสัยเสพยาเสพติด เมื่อเสพยาเสพติดก็มักมีอาการคุ้มคลั่งและหลอนจนทำร้ายภรรยากับลูก และกักขังอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ภรรยาและลูกทนไม่ไหว หวาดกลัวจนต้องหลบหนีไปพักที่อื่นหลบหนีมาได้กว่า 5 เดือนแล้ว เพื่อไม่ให้นายบอยหาเจอ
นายบอยสารภาพทิ้งท้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเองว่าอยากจะเลิกเสพยาและทำตัวให้ดีขึ้น ปัจจุบันมาประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่ ในช่วงเวลาที่พักไม่ได้ขับรถแท็กซี่ ก็ยังเสพยาอยู่เป็นประจำ ได้เงินมาก็เสพยา และเล่นพนันออนไลน์เมื่อถูกจับกุมก็ยินยอมและรับสารภาพ พร้อมรับผิดเพื่อให้ไม่มีสิ่งใดติดตัวอีก และจะปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นเพื่อลูกและเมีย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัว เป็นทุกข์ที่สร้างความเดือดร้อนที่ไม่สามารถปล่อยไว้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีประวัติเสพยาเสพติด มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตปกตินโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะต้องดำเนินการทันที

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts