กลุ่มผู้เสียหายหญิงหาเพื่อนชายต่างชาติ แห่ร้อง ปคบ.หลังพบโค้ชคนดังประกาศขายบ้าน เกรงจะยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหนีไป ตปท.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ก.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.

น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่ม”เป็นหนึ่ง”จิตอาสาช่วยเหลือผู้เสียหายในสังคมให้ได้รับความยุติธรรม พร้อม นายเรวะตะ อัครภูมินทร์ ทนายความ พากลุ่มหญิงผู้เสียเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เพื่อร้องเรียนขอให้ช่วยรับเป็นคดีพิเศษ ต้องการให้ออกหมายจับ “โค้ชพี่เล็ก” เจ้าของเพจแม่สื่อออนไลน์ เพื่อป้องกัน หลบหนีออกไปต่างประเทศ เนื่องจากวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาพบว่า โค้ชคนดัง ได้ประกาศขายบ้านในราคาถูกมากผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊กคนอื่นแทน ในกลุ่ม”ซื้อขายบ้านและที่ดินขอนแก่น”ซึ่งมีผู้สนใจติดต่อไปดูบ้านหลังดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นมีผู้เสียหายที่ประสงค์ดำเนินคดีโค้ชคนดัง ในวันนี้จำนวน 32 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท

น.ส.ชลิดา เปิดเผยว่า วันนี้ทางกลุ่มหนึ่งได้พาผู้เสียหายจำนวนประมาณ 10 คน จากทั้งหมด 30 กว่าราย ที่ได้รับความเสียหายในวงเงินหลายล้านบาท ซึ่งพบความเคลื่อนไหวของเจ้าของเพจหาสามีฝรั่งประกาศขายบ้านไป ถ้าผู้เสียหายกังวลเกรงว่าทางผู้ที่ถูกกล่าวหาจะหลบหนีออกนอกประเทศ จำเป็นต้องรีบนำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนและให้พนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม ซึ่งมีอำนาจการสอบสวนทั่วประเทศช่วยตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินของเขาไว้ก่อนจะจำหน่ายออกไปหมด
อยากจะขอเตือนหญิงไทยทุกคนขอให้มีสติเพราะทุกวัน นี้มีมิจฉาชีพทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแกงค์คอลเซ็นเตอร์หรือการหาคู่ในลักษณะที่ผู้เสียหายกลุ่มนี้ถูกหลอกเอาเงิน อย่าเสียง่ายง่ายควรศึกษาก่อนว่าสามารถหาปูได้จริงไหมแต่ทุกวันนี้มีหน้าม้าเข้ามาทำให้สร้างความน่าเชื่อถือเพราะฉะนั้นจะต้องระมัดระวังตัวมากกว่านี้

ด้าน น.ส.อ้อ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จากผู้เสียหายทั้งหมดที่ติดต่อเขามา 32 ราย กว่าครึ่งหนึ่งได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษโค้ชคนดังกล่าวแล้ว ที่เหลือยังอยู่ต่างประเทศ บางรายก็ป่วยต้องรักษาตัวอยู่จึงไม่ได้มาแจ้งความวันนี้ด้วย
ตนได้สัมผัวผู้เสียหายหลายคนทำให้รับทราบว่าแต่ละคนมีความเครียดในเรื่องการให้บริการหาคู่ชาวต่างชาติของโค้ชคนนี้ ไม่กล้าไปแจ้งความก็จำนวนหลายคน เพราะโดนทางโค้ชคนนี้กดดัน แต่ก็ได้ให้ข้อมูลเอกสารการพูดคุยมาประกอบคดี

น.ส.อ้อ กล่าวต่อ หลังไปออกรายการดัง ทางโค้ชรายนี้ ที่ออกปากขอเจรจาน้องในกลุ่มผู้เสียหายรายหนึ่งว่าขอคืนเงินให้ แต่พอรายการจบ โค้ชเขาก็ได้ทำการลบเฟซบุ๊กส่วนตัวเพิ่มนอกเหนือจากเพจแม่สื่อฯ แล้วยังได้ลบTikTok เขาด้วย เขื่อว่าเป็นการลบหลักฐานทิ้ง และทำให้ไม่สามารถจะติดต่อสื่อสารเขาได้เลย เวลานี้จึงไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรอยู่ที่ไหนล่าสุดเมื่อสองวันก่อน ได้พบเห็นประกาศขายบ้านของเขาในกลุ่มซื้อขายบ้านที่ดินใน จ.ขอนแก่น จึงเชื่อว่าน่าจะเตรียมการหลบหนี
โค้ชคนดังกล่าวได้ออกมาตอบโต้ผู้เสียหายฟังได้แต่เชื่อไม่ได้ เพราะพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผู้เสียหายรวบรวมมาจะแก้ตัวต่อไปอีกไม่ได้แน่นอน
สำหรีบคดีของตนที่ แจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร มีความคืบหน้าไปมากแล้วโดยพนาสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่หนึ่งให้มาพบ ส่วนเขาจะไปพบเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เขา ถ้ายังไม่มาพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียกครั้งที่สองและยังไม่มาอีกจะออกหมายจับฐานไม่มาตามหมายเรียก โดยที่เค้ายืนยันว่าไม่เห็นยอดโอนเงินของเรา
ตนเคยติดต่อขอเงินคืนจำนวนที่จ่ายไป 3.7 หมื่นบาท แต่โค้ชคนดังปฏิเสธไม่ยอมคืน จึงต้องพึ่งอาจารย์เดชา ทนายความให้คำปรึกษา ก่อนมาแจ้งความเอาผิดให้ถึงที่สุด
ผู้เสียหายหลายคนโดนโค้ชคนดังดูถูกว่าไม่หน้าตาแบบนี้ไม่มีปัญญาจะหาสามีฝรั่งได้ หลังจากนั้นตนและอีกหลายคนก็ฮึดสู้จนเข้าไปสมัครเว็บเพจหาคู่ฟรี ไม่เสียตังค์สักบาทเดียว จนสามารถติดต่อหาเพื่อนชายชาวต่างชาติได้เองเรียบร้อยแล้ว แฟนฝรั่งที่ตนคบหาด้วยจะบินมาหาทุกเดือนเวลานี้
ตนฝากแชร์ถึงผู้หญิงทุกคนยังมีโอกาส ไม่จำเป็นจะต้องไปฝากความหวังไว้กับคนที่อ้างตัวเป็นโค้ชหาคู่เพียงคนเดียว

ด้านนายเรวะตะ ทนายความกล่าวว่า เบื้องต้นผู้เสียหายได้ไปแจ้งความพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุบ้างแล้ว เมื่อ พบเห็นความเคลื่อนไหวของผู้ถูกกล่าวหาเกรงว่าจะหลบหนีจากที่จะมาร้องกองปราบให้ดำเนินการเร่งรัดออกหมายจับบุคคลดังกล่าวข้อหาฉ้อโกงประชาชน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปาดคำผู้เสียหาย พบว่ามีความคืบหน้าทางคดีจนออกหมายเรียกแล้ว จึงแนะนำให้กลับไปพบพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุแล้วรวมผู้เสียหายรายอื่นด้วยเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป