30 กันยายน 2566 สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยตัวเลขยอดส่งออกข้าวไทยไปตลาดโลกเดือน ส.ค.66 ทั้งปริมาณและมูลค่าสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดรวม 8 เดือน ส่งออกข้าวแล้ว 4,779,531 ล้านตัน คาดปัญหาเอลนีโญจะทำให้หลายประเทศจัดหาข้าวเพื่อเก็บสำรองไว้ จึงเป็นโอกาสส่งออกข้าวไทยปีนี้ได้แน่ 8.5 ล้านตัน โดยไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ยังคงส่งออกข้าวได้ตามปกติ
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานตัวเลขการส่งออกข้าวในเดือนสิงหาคม 2566 มีปริมาณ 630,567 ตัน มูลค่า 12,953 ล้านบาท โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 4.3% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2566 ที่มีปริมาณ 604,310 ตัน มูลค่า 11,890 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนสิงหาคม 2566 การส่งออกข้าวขาวและกลุ่มข้าวหอมมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากผู้นำเข้ายังคงเร่งนำเข้าข้าวเพื่อชดเชยสตอกในประเทศที่ลดลง ท่ามกลางภาวะอุปทานข้าวในตลาดโลกตึงตัว หลังจากที่ประเทศอินเดียห้ามส่งออกข้าวขาวและเก็บภาษีส่งออกข้าวนึ่ง 20% รวมทั้งมีการกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำของข้าวบาสมาติ ซึ่งต่างสร้างความกังวลให้กับผู้ซื้อ จึงทำให้ต้องหันมาซื้อข้าวไทยมากขึ้น ส่งผลมีการส่งออกข้าวขาวปริมาณ 377,945 ตัน เพิ่มขึ้น 22.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ทั้งนี้ ส่งไปยังประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย โมซัมบิก แองโกลา อิรัก ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวนึ่ง ปริมาณ 81,269 ตัน ลดลง 45.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลัก เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน เบนิน แคเมอรูน เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) ปริมาณ 108,058 ตัน เพิ่มขึ้น 26.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฮ่องกง สิงคโปร์ ไอวอรีโคสต์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ คาดว่าในเดือนกันยายน 2566 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ระดับประมาณ 700,000-800,000 ตัน เนื่องจากผู้นำเข้าที่สำคัญในกลุ่มอาเซียน แอฟริกา และตะวันออกกลาง ยังคงต้องนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวหอม เพื่อชดเชยสตอกในประเทศที่ลดลง และเก็บสำรองไว้ใช้ในช่วงปลายปี เพราะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานข้าวในตลาดที่อยู่ในภาวะตึงตัว ประกอบกับยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียว่าจะมีผลไปจนถึงเมื่อไหร่ ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญในแถบเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตในประเทศ จึงต้องเร่งจัดหาข้าวเพื่อเก็บสำรองไว้ ซึ่งประเทศไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ยังคงส่งออกข้าวได้ตามปกติ และคาดว่ายอดส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะได้เกิน 8.5 ล้านตัน
ส่วนทางด้านราคาข้าวไทยในช่วงนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามภาวะค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าลง ซึ่งถือปัจจัยบวกที่ช่วยดึงความสนใจให้ผู้ซื้อหันมาหาข้าวไทยมากขึ้น โดยข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 27 กันยายน 2566 อยู่ที่ 608 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม และปากีสถาน อยู่ที่ 613-617 และ 598-602 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 610 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ข้าวนึ่งของปากีสถานอยู่ที่ 573-577 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ
นอกจากนี้ ข้อมูลของกรมศุลกากร ยอดการส่งออกข้าวในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-สิงหาคม 2566) มีปริมาณ 5,274,360 ตัน มูลค่า 100,369.7 ล้านบาท (2,949.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 10.4% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 19.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 4,779,531 ตัน มูลค่า 83,733.1 ล้านบาท (2,473.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นต้น