สี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวสุนทรพจน์ครบรอบ 74 ปีวันชาติ 1 ตุลาคม 2023 ว่า อนาคตของจีนสดใส แม้หนทางข้างหน้าไม่ราบเรียบนัก และจีนยังต้องฝ่าอุปสรรคมากมาย พร้อมกับย้ำว่า “ความแข็งแกร่งของเรามาจากเอกภาพและความเชื่อมั่นมีค่ามากกว่าทอง” เขาย้ำว่า รัฐบาลจะพยายามบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่กำหนดไว้ในปีนี้ เดินหน้าการปฏิรูปอย่างจริงจัง และเปิดกว้างรอบด้าน ซึ่งรวมถึงกฎข้อบังคับ การบริหารจัดการและมาตรฐาน
เขาย้ำหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเต็มที่และมั่นคงด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยม พร้อมกับให้ความมั่นใจเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพในระยะยาวของฮ่องกงและมาเก๊า ยืนหยัดยึดหมั่นลักการจีนเดียว ส่งเสริมการพัฒนาอย่างสันติข้ามช่องแคบไต้หวัน โดยไม่อาจมีใครขัดขวางการรวมชาติของไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ได้
ผู้นำจีนยังกล่าวถึงโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่ต้องการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศและระหว่างประเทศอย่างเหมาะสม เพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งอีกด้วย
โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน นำไปสู่เปลี่ยนแปลงโลกอย่างใหญ่หลวง ด้วยการพัฒนาของประวัติศาสตร์และความเจริญทางอารยธรรม ตามความคิดว่ามนุษยชาติไม่อาจตัดขาดจากการขับเคลื่อนการพัฒนาความก้าวหน้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ในเมืองจีน หากยังได้นำเอาความคาดหวังของประชาชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่มุ่งแสวงหาวิถีชีวิตอันดีงาม มาสร้างขึ้นเป็นพันธกิจริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง สร้างประชาคมร่วมโชคชะตาแห่งมวลมนุษยชาติ ชี้ทางสว่างให้กับการพัฒนาสังคมมนุษยชาติ สานประโยชน์อย่างถ้วนหน้า และคว้าชัยชนะร่วมกัน
แนวคิดดังกล่าวช่วยให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกหันมาสร้างเครือข่ายแห่งความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันแบบแน่นแฟ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งสนับสนุนให้ประเทศที่กำลังพัฒนา เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการบริหารจัดการหลักธรรมาภิบาลทั่วโลก ก่อเกิดเส้นทางสายไหมเชื่อมโยงโลกทั้งใบให้เป็นหนี่งเดียว สนับสนุนให้เกิดการศึกษาเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมต่างๆ นำมาซึ่งพลังขับเคลื่อนการพัฒนาของอารยธรรมแห่งมนุษยชาติ ทำให้ประเทศต่างๆ ได้พัฒนาสู่ความเจริญรุ่งเรือง ได้รับการฟื้นฟูศักยภาพแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีประเทศและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 100 ประเทศ ลงนามเข้าเป็นภาคีความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง