“…ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงย้ำเสมอว่า ประวัติศาสตร์โลกได้ก้าวเข้าสู่ช่วงที่ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ ณ วันนี้ จึงได้ปรากฏภูมิทัศน์ที่ชัดเจนยิ่งว่า สถานการณ์โดยรวมกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ผู้นำจีนนำเสนอ สุดที่สหรัฐจะต้านได้ ดังที่หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้ย้ำกับแจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเมื่อเร็วๆนี้ว่า อย่าคิดขวางจีนอีกต่อไปเลย เพราะการผงาดขึ้นของจีนนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นตามกฎการพัฒนาของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จีนเคารพประวัติศาสตร์และยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์เสมอ..”
จับทางจีน 正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰
ความเชื่อมั่น 2 ชั้น 双信心
ในการขับเคี่ยวกับสหรัฐฯครั้งนี้ ดูเหมือนฝ่ายจีนทั้งในภาคประชาชนและรัฐบาลจะแสดงความมั่นใจมากขึ้นว่า ถึงที่สุดแล้วจีนจักประสบชัยชนะ
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงย้ำเสมอว่า ประวัติศาสตร์โลกได้ก้าวเข้าสู่ช่วงที่ตะวันออกลอยสูงตะวันตกคล้อยต่ำ 东升西降 ส่วนประชาชนจีนก็สามารถเปล่งเสียงชัยโยถี่ขึ้นเรื่อยๆจากชัยชนะในสมรภูมิต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ที่กำลังอยู่ในห้วงของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่นการสร้างสถานีอวกาศเทียนกง การสร้างแสนยานุภาพทางด้านการทหารในทุกมิติ และล่าสุดการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของหัวเหวย ซึ่งแสดงอย่างชัดเจนว่า ยังจะมีอะไรอีกมากมายในอนาคตที่จะสร้างความยินดีปรีดาให้แก่พวกเขาเกิดขึ้นตามมา
เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายจีนต่อสู้ด้วยความมั่นใจสองชั้น คือความมั่นใจในระดับนำและความมั่นใจในภาคประชาชน
ความมั่นใจของระดับนำ มาจากความมั่นใจของผู้นำพรรคซึ่งปัจจุบันก็คือคณะผู้นำที่มีสหายสีจิ้นผิงเป็นแกนกลาง ทำให้ผู้นำหน่วยงานทุกระดับทุกภาคส่วนมีน้ำหนึ่งใจเดียว ดำเนินการบริหารจัดการให้ภารกิจการงานสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยดี ยังผลประโยชน์แก่สาธารณชน สร้างความพึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆแก่มวลมหาประชาชน
ความมั่นใจของประชาชนมาจากความมั่นใจของคณะนำ ส่วนความมั่นใจของคณะนำมาจากไหน? นี่คือปุจฉาที่น่าหาคำตอบ
ประเด็นนี้ หากท้าวความย้อนหลังก็จะได้คำตอบอย่างชัดเจน โดยตั้งแต่ปี คศ.1934 ที่แนวทางปฏิวัติประเทศจีนได้ปรากฏออกมาในรูปของสงครามประชาชนที่ใช้ชนบทล้อมเมือง เหมาเจ๋อตงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งหลังจากนั้น ไม่ว่าการต่อสู้จะยากลำบากแค่ไหน จะถูกสกัดกั้นปราบปรามเพียงใด ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับชัยชนะเสมอ จนกระทั่งปลดปล่อยแผ่นดินใหญ่ได้ทั้งหมด ยังเหลือเพียงเกาะไต้หวันจนถึงปัจจุบันนี้
ภายหลังจากนั้น ในห้วงที่จีนเร่งสร้างสรรค์สังคมนิยม รูปการต่อสู้ก็ยังคงเหมือนเดิมคือ ฝ่ายตะวันตกนำโดยสหรัฐได้ทำการปิดล้อมสกัดกั้นทุกวิถีทาง แต่จีนก็ตีฝ่ามาได้ด้วยแนวคิดทฤษฎี “สังคมนิยมแบบจีน” และ “เศรษฐกิจตลาดแบบสังคมนิยม” ของเติ้งเสี่ยวผิงประสบความสำเร็จในการพัฒนาความเจริญทางด้านเศรษฐกิจอย่างมากและอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
และเมื่อมาถึงวันนี้ พรรคฯจีนภายใต้การนำของสีจิ้นผิงก็ได้ประกาศแนวทางการสร้างประเทศจีนให้ยิ่งใหญ่ภายในปี คศ.2035 ด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลก ซึ่งก็ต้องเผชิญกับการปิดล้อมสกัดกั้นของสหรัฐฯทุกรูปแบบ
แต่ด้วยแนวคิด “ทำเค้กให้ใหญ่” และ “ขยายวงเพื่อน” และทฤษฎี “3คุณภาพสูง” ตลอดจนข้อเสนอริเริ่มต่างๆ เช่นร่วมสร้างอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ข้อเสนอหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ข้อเสนอพัฒนาร่วมกันทั้งโลก ข้อเสนอสร้างความมั่นคงร่วมกันทั้งโลก และสร้างอารยธรรมร่วมกันทั้งโลก เชื่อมโยงการขับเคลื่อนทั้งโลกเข้ากับการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตของประเทศจีน
ณ วันนี้ จึงได้ปรากฏภูมิทัศน์ที่ชัดเจนยิ่งว่า สถานการณ์โดยรวมกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ผู้นำจีนนำเสนอ สุดที่สหรัฐจะต้านได้
นี่คือที่มาของความมั่นใจของคณะผู้นำจีน
พวกเขาใช้วิธีคิดแบบวิภาษวิธี บนพื้นฐานของความเป็นจริงของประเทศจีนและของโลก สรุปเป็นแนวคิดทฤษฎีชี้นำการปฏิบัติ ในยุคปฏิวัติเป็นเช่นไร ในยุคสร้างชาติก็เป็นเช่นนั้น
พวกเขาไม่ได้คิดลอยๆ แต่ทุกอย่างเริ่มจากความเป็นจริง หาสัจจะจากความเป็นจริง实事求是 และทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน为人民服务
ดังที่หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้ย้ำกับแจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า อย่าคิดขวางจีนอีกต่อไปเลย เพราะการผงาดขึ้นของจีนนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นตามกฎการพัฒนาของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
จีนเคารพประวัติศาสตร์และยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์เสมอ
ไขคำจีน 信心 ซิ่นซิน ความมั่นใจ
@suebjarkkhao จีนยิ่งใหญ่ “อเมริกาอย่าขวาง” มันคือ “กฏแห่งธรรมชาติ” หวังอี้ รมต.จีน “ย้ำ” “…ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงย้ำเสมอว่า ประวัติศาสตร์โลกได้ก้าวเข้าสู่ช่วงที่ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ ณ วันนี้ จึงได้ปรากฏภูมิทัศน์ที่ชัดเจนยิ่งว่า สถานการณ์โดยรวมกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ผู้นำจีนนำเสนอ สุดที่สหรัฐจะต้านได้ ดังที่หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้ย้ำกับแจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเมื่อเร็วๆนี้ว่า อย่าคิดขวางจีนอีกต่อไปเลย เพราะการผงาดขึ้นของจีนนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นตามกฎการพัฒนาของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จีนเคารพประวัติศาสตร์และยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์เสมอ..” จับทางจีน 正视中国 สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰 ความเชื่อมั่น 2 ชั้น 双信心 ในการขับเคี่ยวกับสหรัฐฯครั้งนี้ ดูเหมือนฝ่ายจีนทั้งในภาคประชาชนและรัฐบาลจะแสดงความมั่นใจมากขึ้นว่า ถึงที่สุดแล้วจีนจักประสบชัยชนะ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงย้ำเสมอว่า ประวัติศาสตร์โลกได้ก้าวเข้าสู่ช่วงที่ตะวันออกลอยสูงตะวันตกคล้อยต่ำ 东升西降 ส่วนประชาชนจีนก็สามารถเปล่งเสียงชัยโยถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากชัยชนะในสมรภูมิต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ที่กำลังอยู่ในห้วงของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่นการสร้างสถานีอวกาศเทียนกง การสร้างแสนยานุภาพทางด้านการทหารในทุกมิติ และล่าสุดการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของหัวเหวย ซึ่งแสดงอย่างชัดเจนว่า ยังจะมีอะไรอีกมากมายในอนาคตที่จะสร้างความยินดีปรีดาให้แก่พวกเขาเกิดขึ้นตามมา เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายจีนต่อสู้ด้วยความมั่นใจสองชั้น คือความมั่นใจในระดับนำและความมั่นใจในภาคประชาชน ความมั่นใจของระดับนำ มาจากความมั่นใจของผู้นำพรรคซึ่งปัจจุบันก็คือคณะผู้นำที่มีสหายสีจิ้นผิงเป็นแกนกลาง ทำให้ผู้นำหน่วยงานทุกระดับทุกภาคส่วนมีน้ำหนึ่งใจเดียว ดำเนินการบริหารจัดการให้ภารกิจการงานสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยดี ยังผลประโยชน์แก่สาธารณชน สร้างความพึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆแก่มวลมหาประชาชน ความมั่นใจของประชาชนมาจากความมั่นใจของคณะนำ ส่วนความมั่นใจของคณะนำมาจากไหน? นี่คือปุจฉาที่น่าหาคำตอบ ประเด็นนี้ หากท้าวความย้อนหลังก็จะได้คำตอบอย่างชัดเจน โดยตั้งแต่ปี คศ.1934 ที่แนวทางปฏิวัติประเทศจีนได้ปรากฏออกมาในรูปของสงครามประชาชนที่ใช้ชนบทล้อมเมือง เหมาเจ๋อตงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งหลังจากนั้น ไม่ว่าการต่อสู้จะยากลำบากแค่ไหน จะถูกสกัดกั้นปราบปรามเพียงใด ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับชัยชนะเสมอ จนกระทั่งปลดปล่อยแผ่นดินใหญ่ได้ทั้งหมด ยังเหลือเพียงเกาะไต้หวันจนถึงปัจจุบันนี้…
♬ เสียงต้นฉบับ – Suebjarkkhao