“ฆ่าน้องสาวเขาทำไม”
เธอปาดน้ำตา น้ำเสียงสั่นเครือ พูดออกไปด้วยความสิ้นหวัง สะท้อนลึกๆที่มิอาจจะประเมินได้ หลังจากคุณหมอแจ้งกับเธอว่า
“น้องสาวคุณเสียชีวิตแล้ว”
คือ…ความรู้สึกจากใจ ที่หาความจริงจากใครไม่ได้..ในขณะนั้น
ขณะสิ้นเสียงปืน…ตำรวจเข้าไปคุมตัวผู้ก่อเหตุ ยิงกราดใส่ประชาชน ในห้างสรรพสินค้า “สยามพารากอน” มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน
เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน กับ ลูกจ้างในห้างชาวเมียนมา…เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในเวลาต่อมา
พี่สาวชาวเมียนมา…หลุดปากออกมาเป็นภาษาไทยชัดเจน, คงไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบนักหรอก
เพราะยังไม่รู้…ใครคือมือปืนยิงน้องสาวเธอ กับคนอื่นอีกหลายคน…สาเหตุจากอะไรหรือ??
โชคดีเหลือเกิน…ที่เหตุร้ายจบลงรวดเร็ว ไม่ลุกลามต่อไป ด้วยความสามารถของตำรวจ ที่เข้าไปควบคุมมือปืนไว้ได้ ด้วยการ “จับเป็น”
ต่อมา…จึงรู้ว่า “มือปืน” เป็น “วัยรุ่น” อายุเพียงแค่ 14 ปี มีพ่อมีแม่ มีครอบครองครัวที่อบอุ่น
เมื่อตำรวจไปค้นบ้านพัก มีพ่อมีแม่ ที่มีหน้าที่การงานเป็นที่รู้จักในสังคมอย่างกว้างขวาง…ยังค้นพบทั้งปืนและกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนไว้ในห้องนอน
สอบสวนทวนความแล้ว…ได้รับคำตอบว่า ไม่เคยรู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น!!
ลูกได้แยกตัวไปพักที่บ้านอีกหลังหนึ่ง…ไม่ได้ไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก!!
ถามว่า…ลูกชายเคยพบหมอเกี่ยวกับ “จิตเวช” หรือไม่…ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนมากนัก!!
ครับ…สรุปเรื่องราวย่อๆพอเข้าใจได้ สิ่งที่สะเทียนใจคนไทยและชาวโลก เกิดขึ้นในบ้านเราในครั้งนี้ ย่อมมีผลด้านลบอื่นๆตามมาอีกมากมาย
โดยเฉพาะ…ด้านการท่องเที่ยว ที่ชาวโลกเขาอยากมาเที่ยวเมืองไทยเพราะฐานความปลอดภัยค่อนข้างสูง เป็นประเทศที่มีวัฒณธรรมงดงามในแทบทุกมิติ
แต่หลายความรู้สึก ในคำถามของพี่สาวคนตาย ชาวเมียนมา จากมือปืนวัยรุ่นคนที่มีครอบครัวแสนอบอุ่น แต่ไม่อาจให้ตำตอบกับเธอได้…
“…ฆ่าน้องสาวเขาทำไม”
เพราะ…พ่อ-แม่ ตอบได้แค่ “ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา” จึงไม่รู้ว่าไปทำอะไรที่ไหนบ้าง??
นี่หรือ…คือคำตอบของหัวหน้า “ครอบครัวที่อบอุ่น”