“…“วัชระ” แฉรูป “ทักษิณ” เสวยสุขถ่ายรูปคู่หลานในสระว่ายน้ำ ยื่น กมธ.ตร.สอบหลักเกณฑ์รักษาตัวที่ รพ.ตร. จี้ “บิ๊กต่อ” แจง สระน้ำ-เสาไฟฟ้า อยู่ชั้นใดของโรงพยาบาล พร้อมยื่นต่อคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ขอให้สอบหาข้อเท็จจริงกรณีสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งให้กระทรวงการคลังปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดำเนินการกับนายทักษิณให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจำนวน 4,000 ล้านบาท ดำเนินการไปถึงไหน อย่างไร?…”
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2566 เวลา 10.57 น. ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่า ตนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ต่างๆ 3 คณะของสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้
1.ยื่นต่อคณะ คณะกรรมาธิการการตำรวจ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีรูปภาพ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถ่ายรูปเล่นน้ำอยู่กับหลาน ว่า นายทักษิณใช้หลักเกณฑ์ใดเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หากเป็นนักโทษคนอื่นต้องการรักษาที่รพ.นี้จะต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง และขอให้เชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มาชี้แจงว่าสระน้ำที่อยู่ในรูปอยู่ชั้นใดของ รพ.ตำรวจ เช่นเดียวกับเสาไฟฟ้าที่ปรากฏในรูปอยู่ชั้นใดของ รพ.ด้วย
นายวัชระ กล่าวอีกว่า 2.ยื่นต่อคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ขอให้สอบหาข้อเท็จจริงกรณีสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งให้กระทรวงการคลังปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดำเนินการกับนายทักษิณให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจำนวน 4,000 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการหรือไม่ อย่างไร และปัจจุบันดำเนินการถึงขั้นตอนใด
นายวัชระ กล่าวต่อว่า 3.ยื่นต่อคณะ กมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน ขอให้พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงกรณีผู้สอบบัญชีตรวจพบธุรกรรมการเงินของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มีความผิดปกติในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การบันทึกรายรับ-รายจ่ายระหว่างบริษัทและบริษัทย่อยที่ผิดปกติ รายจ่ายไม่ตรงกับใบแจ้งหนี้ รวมถึงเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ และการใช้เงินที่ได้รับจากการใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP เป็นต้น มูลค่าเสียหายรวม 1.84 หมื่นล้านบาท และเชิญผู้รับผิดชอบทุกฝ่ายเร่งหามาตรการป้องกันร่วมกันมิให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก ได้หรือไม่ เพราะสร้างความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก และไม่ทราบว่าที่ปรึกษาของนายกฯ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง จำนวน 4 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่…นายวัชระ กล่าว
สืบจากข่าว รายงาน