กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.๑ บก.ป., ร.ต.อ.มณเฑียร ธงเทียน รอง สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ชวรินทร์ แหล่งสท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายเดวิทย์ ฯ อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 232/2564 “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
สถานที่จับกุม หน้าร้านซ่อมจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ
จว.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตรวจพบว่า บัญชี Facebook ชื่อ “เสี่ยโป้ อานนท์” ได้โฆษณา ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ต่างๆ
จากการตรวจสอบเว็บไซต์พบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ที่เปิดให้เล่น พนันทายผลฟุตบอล และเกมคาสิโนออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น บาคาร่า, ไพ่ป๊อกเด้ง, เกมไพ่ชนิดอื่นๆ, ตู้เกมสล็อต, ทายผลเกม เป็นต้น ซึ่งเปิดให้มีการเสี่ยงทายเล่นพนันได้เสียเงินจริง และยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก
จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้างต้น ทั้งหมด 31 ราย โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานที่ ได้ใช้ มีไว้ หรือได้มาจากการกระทำผิดในคดีนี้ พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ฯ และบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปกว่า 20 ราย อย่างไรก็ตามยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันและหลบหนีออกจากที่อยู่เดิม ปัจจุบันกลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 8 ราย มีผู้มีอิทธิพลคอยดูแลให้ความช่วยเหลืออยู่จึงทำให้รอดพื้นที่จากสายตาตำรวจในพื้นที่ จากการสืบสวนพบว่า นายเดวิทย์ ฯ หนึ่งใน 8 ผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกจับกุมได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ต.บางเมืองใหม่
อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ ปกปิดตัวตนใช้นามสมมติว่า “เสี่ยแซม” ประกอบอาชีพเป็นนายหน้าจำหน่ายรถยนต์มือสอง
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาตัว นายเดวิทย์ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้นอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นชายมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับ นายเดวิทย์ ฯ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ บนถนนภายในพื้นที่ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เมื่อถึงบริเวณหน้าร้านซ่อมจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เรียกรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวให้หยุด และเข้าไปแสดงตัว และสอบถาม จนทราบว่าชายคนดังกล่าว คือ นายเดวิทย์ ฯ บุคคลตามหมายจับข้างต้น และผู้ขับขี่ คือ นายสุทธิพงษ์ฯ ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันกับนายเดวิทย์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงหมายจับพร้อมตำหนิรูปพรรณให้ นายเดวิทย์ฯ ตรวจสอบ รับว่า ตนเป็นบุคคลตามหมายจับข้างต้นจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่าตนได้เปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 4-5 บัญชี พร้อมกับเปิดหมายเลขโทรศัพท์ จำนวน 4-5 หมายเลข และส่งมอบให้กับคนที่ร้านอาหารที่ตนเคยทำงานอยู่ (ร้านของเสี่ยโป้)
ตนจะได้ค่าตอบแทนในการเปิดบัญชีดังกล่าวพร้อมกับเงินเดือน เดือนละประมาณ 20,000-30,000 บาท ตนไม่ทราบว่าบัญชีและหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวถูกนำไปใช้ในเรื่องใด
เตือนภัย บช.ก.เป็นหน่วยที่มีศักยภาพสูง สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลในระบบ Big Data
ประกอบกับมีกำลังพลที่มีความพร้อมปฏิบัติงานอยู่ทั่วราชอาณาจักร ผู้ที่คิดจะกระทำผิด ถึงแม้จะหลบหนี ซ่อนตัว ปกปิดตัวตน ก็หนีไม่พ้นศักยภาพของตำรวจสอบสวนกลางที่จะจับกุมกลับมาดำเนินคดี
