น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี จัดชุดเฉพาะกิจ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ด่านตรวจประมงจันทบุรี ด่านกักกันสัตว์จันทบุรี น.สพ.มนัสกิจ พลศรี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ นางสาวจีรวรรณ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อำเภอเมืองจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่ ตรวจสอบห้องเย็นเก็บเนื้อสัตว์ ของบริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด สาขาจันทบุรี พบปริมาณเนื้อสัตว์ เป็นเนื้อสุกร 2,454 กิโลกรัม เนื้อไก่ 394 กิโลกรัม จากนั้น เข้าตรวจห้องเย็นของบริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด(มหาชน) สาขาจันทบุรี พบปริมาณเนื้อสุกร 5,510.587 กิโลกรัม เนื้อไก่ 5,510.969 กิโลกรัม
เนื้อโค 854 กิโลกรัม
ได้ตรวจสอบเอกสารแสดงแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ ใบอนุญาตเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์ ใบรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์จากพนักงานตรวจโรคสัตว์ประจำโรงฆ่าสัตว์ บันทึกปริมาณเนื้อสัตว์ที่เข้า-ออกห้องเย็นต่อวัน ซึ่งหากตรวจพบเนื้อสัตว์ที่ลักลอบเคลื่อนย้าย ไม่มีแหล่งที่มา จะดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นการปฏิบัติการมาตรการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ ตามนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า)และอธิบดีกรมปศุสัตว์ (น.สพสมชวน รัตนมังคลานนท์ ) ซี่งสั่งการให้เอ็กซเรย์ ตรวจสอบห้องเย็นพร้อมกันทั่วประเทศให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เนื่องจากเนื้อสัตว์เถื่อน มีความเสี่ยงที่จะนำพาเชื้อโรคเข้ามาภายในประเทศ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค และการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ ผู้ฝ่าฝืน ลักลอบเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559
กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเบาะแสการลักลอบเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทร 039-312601