วันนี้ ( 8 มี.ค.65 ) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับ พูดคุย และแลกเปลี่ยนข้อราชการกับนายพีระ ทองโพธิ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 9 / ผู้ตรวจราชการกรม และที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนก่อนที่ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้กล่าวถึงความพร้อมของการกระจายผลไม้ปลอดภัย ปลอดโควิดในฤดูกาลผลิตปีนี้ที่กำลังจะออกสู่ตลาด โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับนโยบายเร่งเจรจาและหาช่องทางกระจายสินค้าไปยังต่างประเทศ เพื่อป้องกันผลผลิตกระจุกตัวและอาจส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตโดยเฉพาะการส่งออกผลผลิตทุเรียนไปยังประเทศจีน / การหารือแนวทางแก้ปัญหาการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองขลุงที่ยังติดขัดเรื่องของข้อกฎหมายเขตอุทยานแห่งชาติ / การทำประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ หลังจากนั้นที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายพีระ ทองโพธิ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 9 ร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และผู้ตรวจราชการกรม ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน และผู้แทนคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ได้ประชุมติดตามความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรคประเด็นนโยบายสำคัญ โดยมีนายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ซึ่งครั้งนี้เป็นการตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 1 มีประเด็นตรวจติดตามรวม 7 เรื่อง ประกอบด้วย การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 / การจัดการสิ่งแวดล้อมสีเขียวเพื่อความยั่งยืนตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว BCG / การพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน / การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติเรื่องการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปและผลิตภันฑ์ / การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของเศรษฐกิจฐานราก / โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสว่างควัฒน วรขัตติยราชนารี และในช่วงบ่าย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะลงพื้นที่ติดตามโครงการ 2 โครงการ ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคลองน้ำเค็มทันใจ ม.2 ต.คลองน้ำเข็ม อ.แหลมสิงห์ และ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมง PIPO ด้วย