เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 พ.ย.66 ที่อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายสนธิญา สวัสดี เดินทางไปเพื่อนำเอกสารหลักฐานไปยื่น บชก.กรณีที่ วานนี้ปรากฎว่ามีหมายค้างกรณีหมิ่นประมาท ทั้ง ๆ ที่เรื่องดังกล่าว อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา แจ้งคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ต่อกรณีปุ้ย พิมลวรรณ แจ้งความกล่าวหาสนธิญา สวัสดี กรณีเรื่องดารา call out ซึ่งอัยการยกฟ้องไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมาแล้วนั้น แต่ยังมีหมายค้างอยู่ในกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ วันนี้นายสนธิญาจะนำจดหมายและเอกสารไปแจ้งต่อ กองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อลบชื่อที่มีอยู่ในสารบบหมายจับของกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นายสนธิญา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนได้เดินมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เอาบัตรประชาชนไปแสกน ปรากฎว่ามีหมายจับขึ้นตัวอักษรสีแดง และตนได้มีการตรวจเช็คที่เจ้าหน้าที่ ปรากฎว่าคดีแรกศาลอัยการเพิ่งสั่งยกฟ้องในกรณีที่ตนเคยไปแจ้งกรณีที่ดารา call out และคนที่ดำเนินคดีตนคือปุ้ย พิมลวรรณ และเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ฝ่ายคดีอาญาพิเศษสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องใคร ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี
ในส่วนของประเด็นที่สองเป็นคดีที่ค้างอยู่ กรณีที่ตนถูกฟ้องโดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ไปขึ้นศาลมาเมื่อวันที่ 30-31 ตุลาคม ที่ผ่านมา และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นี้ และตนได้ทำประกันตัวไว้แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ตนเลยต้องมาทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ตรวจพิจารณา และวันนี้ตนเอาเอกสารที่สำคัญมาทั้งหมด
ส่วนกรณีของปุ้ย พิมลวรรณ ที่พาดพิงตน ล่าสุดทางทนายความของปุ้ย พิมลวรรณ ให้ทนายความส่งเอกสารมาหาตนเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 1 ล้านบาท แต่อัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องตน เพราะฉะนั้นปุ้ย พิมลวรรณ ต้องลบทุกอย่างให้หมด และต้องมาขอโทษตนด้วย
