วันที่ 10 มี.ค. นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส.) ลงพื้นที่บริเวณย่านทองหล่อ สุขุมวิท พร้อมด้วย นายมรกต เธียรมนตรีรอง กก.ผจก.สายงานโครงสร้างพื้นฐานNT นางสมจิตต์ ธีระชุติกุล รอง กก.ผจก.หน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้านครหลวง NT เพื่อตรวจความพร้อมในการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่ กทม.ชั้นในบริเวณถนนสุขุมวิท 71 บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31 – ซอยเอกมัย 12 -ปากซอยทองหล่อ 10 ช่วยปรับทัศนียภาพให้สวยงามมีความปลอดภัย หาแนวทางการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน (Infrastructure Sharing) เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการและประหยัดการใช้งบประมาณของทุกส่วนงานสนองตอบต่อนโยบายการจัดระเบียบสายสื่อสารของภาครัฐ
โดยมี นาง กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา สส.กทม.เขต4 พรรคพลังประชารัฐ ผู้บริหารสำนักงานเขตวัฒนา การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สน.ทองหล่อ
สน.คลองตัน พร้อมด้วย ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมภาคเอกชนทุกค่าย ให้การต้อนรับ และรายงานผลการดำเนินงาน
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การจัดระเบียบสายสื่อสารจะเร่งดำเนินการตามแผนจัดระเบียบสายสื่อสารของกระทรวงดีอีเอส พลักดันให้ กทม.มีความสวยงาม เป็นเมืองน่าอยู่ ติดอันดับโลก ซึ่งการดำเนินงานนี้ สำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยปี 2565 นี้ จะเริ่มดำเนินการเร่งด่วนพื้นที่ชั้นใน กทม.ก่อน ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ประมาณกลางเดือน มี.ค.65 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ในระหว่างการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้นอาจจะได้รับความไม่สะดวกบ้าง แต่ในอนาคตหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ บ้านเมืองจะเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความปลอดภัยในการสัญจรไปมาซึ่งการดำเนินงาน กระทรวงดีอีเอส จะได้ประสานความร่วมมือไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันดำเนินงานเพให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ตามกำหนด
นายชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ดีอีเอส มอบหมายให้ NT ดำเนินการในโครงการจัดระเบียบสายสื่อสาร บริเวณพื้นที่ กทม.ตามแนวถนนสายหลัก บริเวณย่านธุรกิจและสถานที่สำคัญ
โดยวันนี้ NT ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณพื้นที่เขตวัฒนา บริเวณถนนสุขุมวิท 71 บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31 – ซอยเอกมัย 12-ปากซอยทองหล่อ10 เป้าหมายเพื่อให้มีการจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมให้มีทัศนียภาพที่สวยงามและปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กระทรวงฯ มองว่าการลงทุนดำเนินการครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดี ซึ่ง NT ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (Telecom Infrastructure) ที่สำคัญ เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านกิจการโทรคมนาคมของประเทศไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนได้รับประโยชน์และใช้บริการโทรคมนาคมที่ทันสมัย ตั้งเป้าหมายการดำเนินการในโครงการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณกรุงเทพชั้นในตามถนนสายหลัก โดยเฉพาะย่านธุรกิจที่มีประชาชนสัญจรผ่านเป็นจำนวนมากก่อน และขยายสู่พื้นที่รอบนอกต่อไป
ด้านนายมรกต กล่าวว่า NT พร้อมที่จะดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐมนตรีดีอีเอสมาโดยตลอด ในการดำเนินการเพื่อจัดระเบียบสายสื่อสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศภาพรวม โดยNT ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารให้สวยงาม เป็นระเบียบร้อย ร่วมกับส่วนงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวงเขตบางกะปิ สำนักงานเขตวัฒนา ส่วนงานให้บริการสื่อสารทั้งหมด โดยกำหนดให้ดำเนินการจัดระเบียบในพื้นที่นครหลวง กทม.ชั้นในเพื่อเป็นต้นแบบ และกำหนดพื้นที่ส่วนบริการลูกค้านครหลวงที่ 2.2.1 บริเวณจุดที่ 1.ในเบื้องต้นจัดบริเวณปากซอยถนนสุขุมวิท71 ด้าน ถนนสุขุมวิท (ซอยปรีดีพนมยงค์) ถึง ซอยปรีดีพนมยงค์ 5 ทั้งสองฝั่งถนน ระยะเวลาดำเนินการภายใน 30 วัน ระยะทาง 500 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ต้องจัดระเบียบเร่งด่วน โดยเป็นการเก็บสายที่ห้อยรกรุงรังให้มีความเป็นระเบียบปลอดภัย พร้อมกับดำเนินจัดระเบียบสายตลอดแนวถนนสุขุมวิท 71 ระยะทาง 3 กิโลเมตร (ทั้ง 2 ฝั่งถนน รวม 6 กิโลเมตร) และจุดที่2 และจัดระเบียบสายสื่อสารในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ถึง ปากซอยทองหล่อ 10 ระยะเวลาดำเนินการภายใน 60 วัน ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร
เพื่อเป็นต้นแบบให้กับการจัดระเบียบสายในบริเวณอื่นๆต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน นักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางสัญจร ซึ่ง NT
ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการไม่ว่าจะเป็น กสทช. กรุงเทพมหานคร
โดยสำนักงานเขตวัฒนา สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม ทั้ง AIS ,True , ทริปเปิลที บรอดแบนด์ และผู้เกี่ยวข้อง ทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมกันทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ขณะเดียวกัน NT พร้อมเป็นผู้ให้บริการ Infrastructure sharing ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ใช้ทรัพยากรของประเทศร่วมกันทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบสื่อสารโทรคมนาคมมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปรับภูมิทัศน์เมืองให้สวยงาม ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และประชาชน ที่อาศัยในสองฝั่งถนน ของถนนในพื้นที่ กทม.ลดการเกิดความร้อนทำให้เกิดไฟไหม้ที่สายสื่อสาร เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้งานได้
การบำรุงรักษาสายสื่อสารในอนาคตทำได้ง่าย รวดเร็ว