วันนี้ ที่ 10 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจังหวัดจันทบุรีได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถจึงประสานไปยัง ร้อยตำรวจโทหญิง พนิดา จุลภักดิ์ ร้อยเวร สอบสวนสภ. เมืองจันทบุรีพร้อม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานไปยัง พันตำรวจเอก เตชิต กุลกนิษฐรากร ผู้กำกับ สภ.เมืองจันทบุรี หลังจากรับทราบจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติร 9(พระยืน) เทศบาลเมืองจันทบุรี ตำบลตลาดอำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี ในเบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบเป็นลานกว้าง พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Mitsubishi Lancer สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กต3465 จันทบุรี จอดอยู่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจังหวัดจันทบุรีร่วมกันตรวจสอบ หาหลักฐานพบเบื้องต้นภายในรถ มีชาย นอนหงายหน้าเสียชีวิต ในชุด ซาฟารี สีดำ แขนสั้น กางเกงขายาว เป็น เจ้าหน้าที่รปภ อยู่ที่โรงพยาบาล กรุงเทพจันทบุรี จะทราบชื่อต่อมาชื่อนายนรินทร์ ดิษฐขจร อายุ 46 ปีอยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 6 ตำบลเกาะขวางอำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี นอนเสียชีวิตหงายหน้าอยู่ภายในรถด้านคนขับและส่วนด้านคนนั่ง ซ้ายมือของคนขับ พบบริเวณที่พักเท้า มีเตาถ่าน ได้ตรวจแล้ว เหลือแต่ ขี้เถ้า โดยบนเบาะนั่ง พบอุปกรณ์ของเครื่องใช้ส่วนตัว ของผู้เสียชีวิต การตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นการลมควัน ฆ่าตัวตาย
ซึ่ง จากการสอบถามพี่ชาย ชื่อ นาย พิทักษ์ ดิษฐขจร อายุ 53 ปีอยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 6 ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ตนเองได้รับรับทราบ จาก พลเมืองดี ทาง เพจจันทบุรี ใน Facebook ว่ามีรถเก๋งลักษณะ ดังกล่าว เหมือน ของน้องตนเอง จอดไว้ จึง เดินทางไปดู ไปดูพบว่า เป็นรถเก๋ง ของน้องตนเอง และพบร่างน้อง ตนเองได้เสียชีวิตภายในรถ หลังจากที่ได้หายตัวไป ตั้งแต่ วันที่ 8 มีนาคม 2565 จนมาพบ ในวันนี้ วันที่ 10 มีนาคม 2565 รวมแล้ว 3 วัน ที่หายออกจากบ้านไป ก่อนมาพบ พร้อมแจ้ง แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย สว่างกตัญญูธรรมสถานจังหวัดจันทบุรี แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. เมืองจันทบุรี เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุว่าเป็นน้องของตนเองเสียชีวิตจากการสอบสวน สาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาหนี้สินของผู้ตายประกอบกับฟันเครียดจึง ได้คิดลมควัน ฆ่าตัวตาย ในรถเก๋งดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกันนำร่างผู้เสียชีวิต ดำเนินการต่อไป