เห็นใจ…ในความขยัน ของท่านนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่ต้องรับรู้ไปทุกเรื่อง
ปัญหาขอทานสีเทาจีน เขมร พม่า ลาว ไทย กว่า 3 แสนคน ที่มีพวกอาสา ขุดคุ้ยขึ้นมา…ก็ยังมีสื่อถามความรับผิดชอบ จากนายกฯ
นี่คือ…นายกฯประเทศไทยคนปัจจุบัน ขยันทุกเรื่อง,รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ดูเหมือน แค่คอยเป็นไม้ประดับ ให้นายกฯสั่ง จึงค่อยออกมาอ้าปากทำงาน…
เป็นง่อยไปหมดหรือไง??
เห็นใจ…ตำรวจ ที่ใช้กำลังพล 500 นาย ทุ่มงบประมากว่า 10 ล้าน ขี่ช้างจับตั๊กแตน ไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” บนเขาบรรทัด นับเดือนมาแล้ว
ต้องตรากกรำทำหน้าที่…กลางป่ากลางเขา จนหมดแรง,ศรัทธาจากประชาชนในพื้นที่ ก็เสื่อมถอย กลายเป็นปัญหา ไม่อาจจะทำมาหากินได้สะดวก
ยืนคนละฝั่งกับความร่วมมือ…เพราะตำรวจทำงานแบบแม้แต่เงาตัวเองก็ยังระแวง
ความร่วมมือ…ที่น่าจะได้จาก คนในพื้นที่,กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.อบจ.มวลชน คือแสงสว่างส่องทางให้…ก็ไม่มีแม้แต่เงา
มองลึกๆ…ไปถึงพ่อบ้านพ่อเมือง ในพื้นที่ ก็ไม่มีผู้ว่าฯคนไหน ออกมาร่วมมือ
นี่คือ…ข้อบกพร่องของหน่วยงานราชการ เหมือนยืนคนละฝ่าย,มีนายคนละคน
ก็ต้องคอยให้ “นาย” สั่ง…ที่นอกเหนือกว่านั้น เอาตัวรอดไว้ก่อน…นายสอนไว้ นี่คือ ระบบราชการบ้านเมืองเรา
คนหนีคดีจากเรือนจำ…ขึ้นเขาบรรทัดเพียงคนเดียว หนีลอยนวลอยู่บนเขาได้นับเดือน ที่ใช้ตำรวจครึ่งพัน หมดงบฯไปแล้ว 10 ล้าน ยังไม่เห็นแม้แต่เงา เพราะเขา “มีมวลชน” พื้นบ้าน เสมือนญาติพี่น้อง คอยดูต้นทางปลายทาง ให้…
เหนือกว่า…อำนาจรัฐได้ ก็มองเห็นช่องว่างมากมาย สำคัญที่ศัทธาจากประชาชน อยู่ข้างไหน??
รายนี้…จะสิ้นสุดลง เมื่อ “เสี่ยแป้ง” เดินสายตรงเข้ามอบตัว โดยฝ่ายเจ้าภาพในครั้งนี้คือ…ฝ่ายปกครอง
ที่มีคนในเครื่องแบบอีกฝ่าย…คอยป้องกันการถูก “จับตาย” เป็นเกราะกำบังให้
ไม่ใช่หมอดู…แต่มองเห็นได้จากความเคลื่อนไหวสุดท้าย ของฝ่ายปกครองและกองทัพภาค 4 โดยมีฝ่ายตำรวจสายตรงจากทำเนียบ ประสานใจกันอยู่ครับ
บ้านนี้เมืองนี้…ใครใหญ่ก็รู้อยู่!!??