เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 พ.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส.ส.จรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.เขต 8 จ.ชลบุรี พร้อมด้วยนายสุวรรณ บัวโรย ที่ปรึกษากรรมาธิการแรงงาน พานายธาราผู้เสียหาย หลังถูกเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้นอก ระบบดอกลอย ส่งดอกรายวันร้อยละ 2ต่อวัน ถูกข่มขู่คุกคาม ไม่สามารถอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้ จึงเข้าขอความช่วยเหลือศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ ตร.
และขอให้กระทรวงยุติธรรม ช่วยคุ้มครองพยาน
นายธารา กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของธุรกิจรถรับ-ส่ง มีรถอยู่ 50 คันเหลือให้บริการแค่ 20 คัน หลังผ่านโควิด-19 มา
เกิดปัญหาเงินขาดสภาพคล่อง จึงต้องกู้เงิน
ตนเจอโฆษณาปล่อยเงินกู้จากในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเงินกู้ด่วน ศรีราชา ชลบุรี ดอกร้อยละ2บาท/วัน จึงเริ่มติดต่อกู้เงินวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนก็ส่งดอกมาเรื่อยๆ จน วันที่ 4 พฤศจิกายน ตนหยุดส่งดอก และวันถัดมาตนก็ถูกเจ้าหนี้โทรคุกคามทำนองว่า ”เจอที่ไหนจะเก็บ” คำว่าเก็บในที่นี้หมายถึงการข่มขู่ถึงแกชีวิต หลังจากนั้นก็มีการให้คนมาเฝ้า แต่ว่าตนเองหนีออกมาแล้ว และทุกวันนี้ตนกลับเข้าไปที่ทำงานไม่ได้ เนื่องจากกลัวอิทธิพล ซึ่งตนกู้เงินมาทั้งหมด 7 หมื่นบาท ปัจจุบันตนเป็นหนี้ทั้งหมด 1.4 ล้านบาท โดยกู้จากเจ้าหนี้เงินกู้ 23 ราย กู้รายละ 5 หมื่น เอาไปใช้หนี้รายเก่า ทำแบบเดียวกันแต่ละราย เวลาเซ็นสัญญาก่อนกู้ยืมเจ้าหนี้จะกรอกข้อมูลแค่ของตนฝ่ายเดียว แต่ไม่มีข้อมูลและสัญญาจากเจ้าหนี้้เลย
ตนเคยโทร.ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบกลับว่าจะให้ทำยังไง พอวันนี่ตนได้มาแจ้งความที่นี่ก็รู้สึกดีขึ้น และจะตั้งใจทำมาหากินเพื่อมาใช้หนี้ต่อไป
ด้านนายสุวรรณ กล่าวกว่า ปัจจุบันเจ้าหนี้บางรายตนได้มีการโทรคุยไกล่เกลี่ยกันแล้ว ซึ่งบางรายสามารถไกล่เกลี่ยได้ ส่วนบางรายก็ต้องรอทางนายทุนเจ้าของเงินมาไกล่เกลี่ย
ด้าน นายจรัส สส.ชลบุรี กล่าวว่า ตนในฐานะ สส.เขต ฝากถึงเจ้าหนี้ว่าให้เห็นใจลูกหนี้หน่อย ไม่ควรไปข่มขู่ ทำร้ายกัน ไม่ใช่ว่าลูกหนี้จะคิดหนี แต่เขาต้องการความปลอดภัย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานตำรวจในพื้นที่ และเจ้าหนี้ทุกเจ้าภายใน 7 วัน เพื่อคุยไกล่เกลี่ยให้เป็นไปตามข้อตกลง แต่ถ้าเจ้าหนี้รายไหนตกลงไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เงินกู้ต่อไป