เมื่อเวลา 00.10 วันที่ 28 พ.ย. พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สมพร สุ่มมาตย์ สว.สส.ฯ ได้นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัว นายประเสริฐ เล้ามณี อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาคดี “ลักทรัพย์ในเคหสถาน“ ในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางละมุง และใกล้เคียง จำนวนหลายครั้ง โดยสามารถยึดของกลางที่ก่อเหตุได้เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น นาฬิกา กระปุกออมสิน กรอบพระ กุญแจรถ ถุงใส่ทองคำรูปพรรณ และอื่นอีกกว่า 10 รายการ รวมถึงรถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.นาวิน ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายหลายรายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน โดยแจ้งว่าถูกคนร้ายอุปกรณ์ตัดแม่กุญแจแล้วเข้าไปลักทรัพย์ในห้องเช่า ช่วงกลางวันแสกๆ ขณะที่ตัวผู้เสียหายกำลังทำงานอยู่ ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์ไปได้หลายรายการ อาทิเช่น สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนมาก จึงส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแส
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดปรากฏว่า คนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อค ปิดบังอำพรางใบหน้า มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน โดยใช้คีมเหล็กตัดสายยูคล้องกุญแจเข้าไปลักทรัพย์สินช่วงกลางวันแสกๆ ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งคนร้ายจะเลือกเหยื่อที่ทำงานกลางวันไม่มีใครอยู่ห้อง นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายซึ่งมีลักษณะและพฤติกรรมเดียวกัน ไปก่อเหตุในพื้นที่รับผิดชอบใกล้เคียงอีกจำนวนมาก
ชุดสืบสวนจึงแกะรอยกระทั่งทราบว่าคนร้ายคือ นายประเสริฐ อาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง บริเวณหลังวัดสุทธาวาส จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ หลังศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับ คนร้ายได้ไปหลบซ่อนตัวกบดานอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี จึงเดินทางไปจับกุมตัวได้ในที่สุด ตรวจค้นพบทรัพย์สินคาดว่าที่ขโมยมาหลายราย จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้น นายประเสริฐ ให้การยอมรับว่า เคยก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นห้องพักของกลุ่มคนงานแรงงานนิคมอุตสาหกรรมพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนทรัพย์สินที่ได้ก็นำไปขายแปรสภาพเป็นเงินแล้วนำไปใช้หนี้สิน โดยมี เจ้าทุกข์จำนวน 2 ราย เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สิน และยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของเจ้าทุกข์ที่ถูกคนร้ายขโมยมาจริง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าคนร้ายเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์มาแล้วถึง 3 ครั้ง ถือว่าเป็นโจรตัวฉกาจที่มีประสบการณ์โชกโชนในการลักทรัพย์ โดยพฤติการณ์จะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนดูลาดเลา เมื่อสบโอกาสก็จะลงมือก่อเหตุทันที หากเป็นห้องแถวที่ไม่มีใครอยู่ก็มักจะงัดรวดเดียวทีละหลายหัอง
อย่างไรก็ดี สภ.บางละมุง ได้ส่งตำรวจสายตรวจเพิ่มความถี่ในการตรวจตราห้องเช่าบ้านพักตามจุดเสี่ยงเป็น 2 เท่า ทั้งในช่วงกลางวัน และกลางคืน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านอีกด้วย และถ้าโดยหากผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกก่อเหตุและสงสัย สามารถเดินทางตรวจสอบทรัพย์สินหรือข้อมูล ได้ที่ สภ.บางละมุง.
