ตำรวจไซเบอร์ เปิดยุทธการรวบสาวหล่อลักลอบขายซิมม้า เย้ยกฎหมาย
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.๔,พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธุ์ รอง ผบก.สอท.๔,พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.๔,พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.๒ บก.สอท.๔,พ.ต.ท.วีระพล กันธวงศ์ ,พ.ต.ท.สิรวัชญ์ มหัทธนวิศิษฎ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.4
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ ๒ กองบังคับการ ๔ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำโดย พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.๒ บก.สอท.๔ หัวหน้าชุด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นางสาวธรรศกร กิจกุลวศิน อายุ ๔๓ ปี พร้อมด้วยของกลาง ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทะเบียนแล้วจำนวนหมื่นกว่าซิม และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น C2 สีทอง-ดำ จำนวน 1 เครื่อง (ใช้สำหรับเปิดใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่าย เอไอเอส กับ เครือข่ายทรูและดีแทค )
ซึ่งกระทำความผิดฐาน ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”
สถานที่จับกุม พื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดชุมพร
พฤติการณ์ขณะเกิดเหตุ สืบเนื่องจากนโยบาย รัฐบาลสั่งจัดการเด็ดขาด ซิมม้า – บัญชีม้า – เว็บพนันออนไลน์นั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท จึงได้สั่งการให้มีการปราบปรามการลักลอบขายซิมผีบัญชีม้าเพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพนำไปใช้โทรหลอกลวงประชาชนในรูปแบบแก็งคลอเซ็นเตอร์และการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบต่างๆ บก.สอท.4 และเมื่อวันที่ ๒๙ พ.ย.66 พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.๔ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.๒ บก.สอท.๔ เป็นหัวหน้าชุด ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 เข้าจับกุมบุคคลที่ได้ลักลอบขายซิมผี จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมการลักลอบขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก จนสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖ ( มาตรา ๑๑ ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขายหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปีหรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ) ได้ลงโพสขายผ่านแอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊คเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.๒ บก.สอท.๔ จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อจากผู้โพสดังกล่าว จากนั้นได้ตกลงซื้อขายกับสายลับและได้ส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานให้กับสายลับ จากการตรวจสอบซิมที่ได้ล่อซื้อพบว่ามีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ในชื่อของบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่ามาแล้วจริง จึงทำการสืบสวนจนทราบชื่อบุคคลที่ขายซิมดังกล่าวให้สายลับคือ ว่านางสาวธรรศกร หรือฝ้าย กิจกุลวศิน อายุ ๔๓ ปี และวันนี้ (วันที่ ๒๙ พ.ย.๒๕๖๖ ) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้กับนางสาวธรรศกรหรือฝ้าย กิจกุลวศิน และตกลงว่าจะส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วให้กับสายลับทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามดูพฤติกรรม จนทราบและแน่ใจว่านางสาวฝ้ายฯ จะนำซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วไปส่งให้สายลับที่ร้านส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร จนเมื่อเวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามนางสาวฝ้าย ไปจนถึงบริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ ๓๑/๓๐ ม.๒ ตำบล/แขวง บางลึก อำเภอ/เขต เมืองชุมพร จังหวัด ชุมพร และประกอบในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบเห็นนางสาวฝ้ายฯ ถือกล่องพัสดุ ลงจากรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้นบุคคลดังกล่าวพบมีซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้จำนวนหมื่นกว่าซิมไว้ในการครอบครอง จากการสอบถามนางสาวฝ้ายฯ ให้การรับสารภาพว่าซิมโทรศัพท์ทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบนั้นได้มีการลงทะเบียนซิมแล้วทั้งหมดพร้อมใช้ซึ่งตนเองกำลังจะนำไปส่งให้กับบุคคลที่ได้สั่งซื้อกับตนเองไว้จริงแลนางสาวฝ้ายได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้านของนางสาวฝ้ายฯยังพบซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมส่งอีกจำนวนอีกกว่า๒,๐๐๐ซิม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุมและแจ้งสิทฺธิตามกฎหมายให้ทราบ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร ภ.จว.ชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและจะได้ขยายผลจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นางสาวฝ้ายฯ ผู้ต้องหา รับว่าตนเองเป็นผู้ที่โพสขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่น เฟสบุ๊ค และเมื่อมีผู้ที่ติดต่อซื้อซิมโทรศัพท์ ที่ได้ลงทะเบียนแล้วก็ทำการลงทะเบียนซิมเองแล้วขายแต่ถ้ามีจำนวนมากก็จะติดต่อซื้อจากบุคคลที่รู้จักในเฟสบุ๊คอีกที่หนึ่ง ซึ่งจะรับซื้อซิมดังกล่าวมาในราคาซิมละ ๓๕ บาท และจะนำมาขายในกลุ่มลับในราคา ๔๓ บาทได้กำไร ประมาณ 8บาท ต่อซิม จากการสอบถามนางสาวฝ้ายฯ ตนทราบอยู่แล้วว่าการซื้อขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้เป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ขายได้กำไรดีจึงยอมเสี่ยงทำ
เตือนภัยสังคม กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( สอท.) ขอเตือนพี่น้องประชาชน ว่าการซื้อขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้เป็นความผิดตามกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และมักจะมีกลุ่มคอลเซนเตอร์ซื้อไปใช้โทรหลอกลวงพี่น้องประชาชนซึ่งมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นว่ามีการซื้อขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าจับกุมเพื่อจะเป็นการตัดวงจรของกลุ่มมิจฉาชีพไม่ให้ไปหลอกหลวงพี่น้องประชาชนอีกต่อไป