วันที่ 12 ธ.ค.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาพีอาร์สาวผู้เสียหายและสามี เข้าร้องทุกข์ผ่านนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี หลังผู้เสียหายถูกตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี จำนวน 7 นาย เข้าจับกุมข้อหาครอบครองยาเคตามีนเพื่อเสพ โดยเรียกเงิน 3 แสนบาทแลกกับการเปลี่ยนข้อหาเป็นครอบครองยาบ้า 2 เม็ด ซ้ำยังพาฝ่ายหญิงไปข่มขื่นที่โรงแรมย่านรังสิต
น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลา 20.00น.วันที่ 23 พ.ย.ซึ่งตนกำลังไปทำงาน ก็มีตำรวจขับรถเข้ามา 3 คันล้อมรถตนไว้และขอตรวจค้นโดยไม่แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ก่อนจะพบยาเค ซึ่งตนยอมรับว่าซื้อมาจากนายกอล์ฟ ลูกค้าที่มาเที่ยวในสถานบันเทิง ซึ่งน่าจะเป็นสายลับของตำรวจด้วย โดยตนซื้อมาให้แฟนเสพ จากนั้นก่อนจะเดินทางออกไป ตำรวจได้สั่งให้เอากล้องหน้ารถออก พร้อมตรวจสอบบัญชีธนาคารตนและพบเงิน 360,000 บาท ตำรวจก็บอกว่า “มึงอยากช่วยสามีไหม” และรีดเงินตน 3 แสนบาทแลกกับการเปลี่ยนข้อหาครอบครองยาเคเพื่อเสพเป็นครอบครองยาบ้า 2 เม็ดซึ่งโทษจะรุนแรงน้อยกว่า ตนก็หวาดกลัว จึงยอมให้พาไปกดเงินที่ตู้เอเทีเอ็ม 2 แห่ง ขณะนั้นตำรวจก็นั่งรอในรถ และสั่งให้ตนลงไปกดเงินคนเดียว แต่มีรายหนึ่งลักษณะตัวอ้วนผิวดำบอกว่า “กูช่วยคุยกับนายแล้ว จะให้อะไรบ้าง” ตนปฏิเสธว่าไม่มีแล้ว เขาก็บอกว่า “มึงไปเอากับกู” แล้วก็พาตนไปขืนใจที่โรงแรมย่านรังสิต
นายบี (นามสมมุติ) กล่าวว่า หลังก่อนเหตุ ตำรวจพาตนไปดำเนินคดีที่ สภ.ธัญบุรี จากนั้นหลังประกันตัวออกมา ก็สังเกตเห็นแฟนสาวมีอาการผิดปกติ ไม่ค่อยพูดจา จึงพยายามเค้นสอบถาม ก่อนรู้ความจริงเข้า และมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ตนยังรู้สึกทำใจไม่ได้ จากนี้จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกแล้ว
นายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวนอกจากจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติหน้าที่มิชอบตามกฎหมายอาญา ม.157 ยังเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ป้องกันการอุ้มหาย ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยตนจะเกาะติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดกับหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ นอกจากการติดตามคดีในพื้นที่ โดยแยกเรื่องการเสพยาเคเป็นคนละส่วน เพราะมีการอุ้มตัวไปรีดทรัพย์สินด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจ 7 นายที่ก่อเหตุมียศไล่ตั้งแต่ ร.ต.ต.ตำแหน่ง รอง สว.สส.ไปจนถึง ส.ต.ต.ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.