วันจันทร์, กันยายน 23, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจไซเบอร์จับเครือข่ายหลอกขายไอโฟนมือสองเหยื่อต่อราคาแทบสู่ขิต สุดท้ายโดนหลอกโอนมากกว่าเดิม

Related Posts

ตำรวจไซเบอร์จับเครือข่ายหลอกขายไอโฟนมือสองเหยื่อต่อราคาแทบสู่ขิต สุดท้ายโดนหลอกโอนมากกว่าเดิม

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายต้องการซื้อโทรศัพท์มือสอง จึงได้กดค้นหาในกลุ่มซื้อขายโทรศัพท์ผ่านแอปเฟซบุ๊ก พบผู้ใช้บัญชีของแอปดังกล่าวรายหนึ่ง ใช้ชื่อ “App Mobile Shop” โพสต์ขายโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 14 โปรแม็กซ์ มือสอง ในราคา 21,900 บาท ผู้เสียหายสนใจจึงติดต่อผ่านแชทเพื่อติดต่อซื้อขาย

ต่อมา ผู้เสียหายได้ต่อรองราคา เหลือ 19,000 บาท แล้วให้ส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทางเนื่องจากผู้เสียหายไม่ไว้ใจร้านดังกล่าว มิจฉาชีพจึงส่งข้อความรีวิว(ของปลอม) พร้อมกับภาพของเจ้าของร้านดังกล่าว(ของปลอม)ให้ผู้เสียหายดู โดยมิจฉาชีพอ้างว่า หากสั่งซื้อพร้อมโอนเงินเลยจะลดราคาให้เหลือเพียง 18,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป

จากนั้น มิจฉาชีพขอข้อมูลชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของผู้เสียหายไป แล้วอ้างว่ากำลังจะส่งสินค้าดังกล่าวให้ แต่ผู้เสียหายต้องโอนเงินค่าประกันสินค้าอีก 16,990 บาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ นอกจากนั้น มิจฉาชีพยังพยายามหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีก อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการต่างๆ แต่ผู้เสียหายไม่มีเงิน และทางมิจฉาชีพพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะส่งสินค้า จนกว่าผู้เสียหายจะโอนเงินเพิ่ม ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าโดนหลอก สุดท้ายเสียเงินไปรวมทั้งสิ้น ประมาณ 35,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงมอบหมายให้ บก.สอท.3 เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 จึงจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมให้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องได้หลายราย

จากการสืบสวน พบว่ามี 1 ในผู้ต้องหาของขบวนการดังกล่าวซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด และพบว่าเคยมีประวัติการใช้บัญชีธนาคาร หลอกลวงจำหน่ายโทรศัพท์มือถือผ่านทางเพจเฟสบุ๊คอื่นมาแล้ว ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.วรรณนิภา (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” โดยควบคุมตัวได้บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิต พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ และ พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ
สว.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts