ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบคนร้าย ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ตระเวนก่อเหตุซ้ำในพื้นที่ภาคอีสาน
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม
รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., ,พ.ต.อ.เจนพล พลเยี่ยม ผกก.สภ.เมืองสรวงพ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สืบสวน ภ.จว.ร้อยเอ็ด, ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.วัตรสัณห์ เนตรหาญ รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.วิทยา สุทธิปัญโญ รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.ท.สุรศักดิ์ บุญเพ็ง รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ป., ร.ต.ต.ชโยธรณ์ ทองนาค รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ป., ร.ต.ต.มนตรี โสภัย รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายจำเนียรฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ
- หมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 530/2566 ลง 12 ธ.ค.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือจำนวนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นหรือของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร”
- หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 785/2566 ลง 13 ธ.ค.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยการขู่เข็ญว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ชิงทรัพย์นั้น ในเวลากลางคืน โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม”
สถานที่จับกุม แคมป์คนงาน ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 07.30 น.
พร้อมตรวจยึด - รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน
- เสื้อยีนส์แขนยาว สีกรมท่า จำนวน 1 ตัว
- เสื้อยืดแขนสั้น สีเทา จำนวน 1 ตัว
- กางเกงยีนส์ขายาว จำนวน 1 ตัว
- หมวกลายทหาร จำนวน 1 ใบ
- รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่
- รองเท้าผ้าใบ สีดำ จำนวน 1 คู่
- อาวุธมีด ปลายแหลม จำนวน 1 เล่ม
พฤติการณ์ จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ที่มีเหตุคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ใช้อาวุธมีด ปลายแหลมจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องในพื้นที่ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ได้เงินสดไปจำนวนหนึ่งก่อนจะขับขี่รถยนต์กระบะหลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่พนักงานร้านสะดวกซื้อ และประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังทางผู้เสียหายได้มีการร้องขอให้ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ช่วยสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.๓ บก.ป. จึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวน พร้อมกับประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และ สภ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด จนกระทั่งทราบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40-50 ปี รูปร่างสันทัด แต่งกายมิดชิด สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใส่หมวกลายพราง และสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาในร้านสะดวกแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น หลังจากนั้นคนร้ายได้พุ่งตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์พนักงาน ก่อนจะใช้มีดปลายแหลมจี้ไปที่พนักงานร้านสะดวกซื้อ ขู่ให้นำเงินสดมาให้ ซึ่งทางพนักงานเกิดความหวาดกลัวจึงได้นำเงินสดในลิ้นชักเคาน์เตอร์มอบให้คนร้าย หลังจากนั้นคนร้ายจึงได้วิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะและขับหลบหนีไป
ซึ่งต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 04.00 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะคันเดิม เข้ามาก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้านสะดวกซื้อ ที่ ต.หนองผือ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ในลักษณะเช่นเดียวกัน โดยคนร้ายได้เงินไปจำนวนหนึ่ง และได้ขับขี่รถกระบะคันเดิมหลบหนีไป
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายจำเนียรฯ อายุ 44 ปี โดยพฤติการณ์ภายหลังจากที่นายจำเนียร์ฯ ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ไปแล้ว นายจำเนียรฯ ได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปในระยะทางกว่า 315 กม. ซึ่งในระหว่างทางในการหลบหนี นายจำเนียรฯ ได้มีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถ และเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่ออำพรางตัว หลังจากนั้นนายจำเนียรฯ ได้หลบหนีมาทำงานเป็น ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย ที่ ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยาน หลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังได้มีการขอหมายค้นเพื่อทำการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐาน และของกลางที่น่าจะเกี่ยวข้องทางคดี
กระทั่งวันนี้ (13 ธันวาคม 2566) เวลาประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นพื้นที่ 2 จุด ในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.ศรีสะเกษ โดยสามารถจับกุมตัวนายจำเนียรฯ ได้ที่ ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์กระบะ และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ โดยในส่วนของอาวุธมีดที่น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้ที่บ้านพักของภรรยาผู้ต้องหาในพื้นที่ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ในระหว่างการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางเพจเฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนภัยไปยังพนักงานร้านสะดวกซื้อ และประชาชนคนในพื้นที่ใกล้เคียง ให้ระมัดระวังคนร้ายที่อาจจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว อีกทั้งยังมีการเปิดรับเเจ้งเบาะเเสคนร้ายผ่าน MOST WANTED เพื่อนำไปสู่การติดตามจับกุมให้เร็วยิ่งขึ้น (https://www.facebook.com/photo.php?fbid=377343948132482&set=a.127278969805649&type=3)
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายจำเนียรฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าหลังจาก ที่ตนก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อแล้ว ตนได้นำเงินที่ได้จากก่อเหตุไปใช้หนี้รายวัน เนื่องจากตนหมุนเงินไม่ทัน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพนักงานร้านสะดวกซื้อ ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการทำงาน ให้มีความตื่นตัวอยู่เสมอ โดยให้สังเกตลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะบุคคลที่แต่งกายมิดชิด สวมหมวกปิดบังใบหน้า หรือบุคคลที่มีท่าทางพิรุธ หากพบลูกค้าที่มีลักษณะดังกล่าว ขอให้ใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ทางร้านสะดวกซื้อต่างๆ มีมาตรการ หรือแผนรองรับสำหรับการติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงที