ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงษ์ ไหวดี ผกก.๓ บก.ปอท., พ.ต.ท.สัญญา นิลนพคุณ, พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด, พ.ต.ท.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.3 บก.ปอท.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, ว่าที่ พ.ต.ท.ประทีป จันทร์เพชรบุรี, ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง สุธัญดา เอมเอก, พ.ต.ต.ชัยณรงค์ จอมเล็ก, พ.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง สว.กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ต.ปกฉัตร สงวนแวว สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.พงศกร แฝดสุระ, ร.ต.อ.อนันต์ ว่องไว, ร.ต.อ.หญิงศรุตา ขันธรูจี รอง สว.กก.3 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท.
ร่วมกันจับกุม นายไกรวีฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3416/2566 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”, หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 354/2565 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” และหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ.56/2566 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาหลอกเอารหัส OTP บัตรเครดิตไปซื้อสินค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน พบว่า มีผู้เสียหายอีกหลายรายได้ถูกผู้ต้องหาลักลอบเข้าไปใช้บัญชีผู้ใช้งานแอพลิเคชั่นขายของออนไลน์ของผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหาจะสวมรอยใช้ชื่อและสัญลักษณ์รูปภาพเลียนแบบบริษัทขายของออนไลน์เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทขายของออนไลน์ จากนั้นจะเข้าไปสนทนาพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านการส่งข้อความทางไลน์หรืออีเมล์ ออกอุบายเพื่อให้ผู้เสียหายแจ้งหมายเลข OTP ของบัตรเครดิต ทำให้ผู้ต้องหาสามารถลักลอบนำข้อมูลบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้ซื้อสินค้าได้สำเร็จ จากการสืบสวน พบว่า ข้อมูลบัตรเครดิตที่ผู้ต้องหาลักลอบนำไปใช้ เป็นการใช้ผ่านแอปพลิเคชันบัตรเครดิตของธนาคารทำรายการใช้วงเงินในบัตรด้วยวิธีสแกน QR Payment ผ่านร้านค้าของนายไกรวีฯผู้ต้องหาในคดีนี้และยังเป็นผู้กดเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงหน้าตู้เอทีเอ็มด้วยตนเอง
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายรายอื่นที่ผู้ต้องหาได้เอาข้อมูลบัตรเครดิตไป โดยเป็นการซื้อสินค้าทางออนไลน์ ประเภททองคำและสมาร์ทโฟน ซึ่งผู้รับสินค้าดังกล่าวก็คือนายไกรวีฯ เช่นกัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางไปในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และกำลังจะเดินทางกลับโดยเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังติดตามและจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง สว.กก.3 บก.ปอท.
โทร 090-9855532