วันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 10.30 น. นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความชื่อดังเจ้าของฉายาทนายปราบโกง เปิดแถลงข่าวที่ริมชายหาดเกาะโหลน ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เปิดโปงนายทุนหญิงจากกรุงเทพ อายุประมาณ 70 ปี ลูกสาวอดีตนักการเมืองชื่อดังทางภาคเหนือ ใช้กลอุบายอันแยบยลเพื่อต้องการฮุบที่ดินบริเวณชายหาดอันสวยงามหลายสิบไร่ โดยทนายปราบโกงได้โชว์หลักฐานเป็นข้อมูลทะเบียนราษฎร ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยปรากฏชื่อนายทุนหญิงรายนี้เข้าไปเป็นเจ้าบ้านเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 แล้วชี้ไปที่บ้านตามทะเบียนราษฎรให้ผู้สื่อข่าวดูซึ่งบ้านหลังนั้นมีสภาพเป็นเพียงกระต๊อบหรือชาวใต้เรียกว่า ขนำ จึงไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา และไม่มีห้องน้ำ ห้องสุขาที่ถูกสุขลักษณะ แต่ก็แปลกที่สามารถออกเลขบ้าน และทะเบียนบ้านได้ ทนายปราบโกงเล่าย้อนหลังไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านบนเกาะโหลนร้องเรียนมายังตนขอให้ช่วยตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของการออกเลขบ้านและทะเบียนบ้านขนำหลังนี้ ตนจึงพยายามแสวงหาหลักฐานและสืบหาข้อเท็จจริงจนกระทั่งได้ความว่า นายทุนหญิงรายหนึ่ง เป็นเศรษฐีนีอยู่ที่กรุงเทพ เมื่อกลางปี 2564 ได้ขายคฤหาสน์ของตนหลังงามย่านแจ้งวัฒนะได้เงินสดมาประมาณ 200 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อคฤหาสน์หลังใหม่ทดแทนคฤหาสน์หลังเดิม ตนจึงต้องตรวจสอบข้อพิรุธนี้และพบว่า หญิงเจ้าเล่ห์รายนี้ใช้วิธีไปเช่าบ้านอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี โดยจ่ายค่าเช่าประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ทนายปราบโกงจึงฟันธงว่า เหตุที่ไม่ต้องการซื้อบ้านหลังใหม่เพราะไม่ต้องการมีชื่อเป็นเจ้าบ้านในบ้านหลังใหม่ จึงใช้วิธีเช่าแทนเพื่อต้องการเอาชื่อตัวเองเข้าไปเป็นเจ้าบ้านขนำบนเกาะโหลน เพื่อเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำไปสู่การฮุบที่ดินบริเวณชายหาดมูลค่านับร้อยล้านบาทมาเป็นของตนเอง ทนายปราบโกงกล่าวทิ้งท้ายว่าหลังจากนี้ตนจะไปขอคัดถ่ายสำเนาสัญญาซื้อขายบ้านของหญิงรายนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นเศรษฐีมีเงินมากถึง 200 ล้านบาทแต่ทำตัวยากจนมาอาศัยอยู่ในบ้านขนำ ซึ่งไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา เพื่อจะได้นำหลักฐานทั้งหมดไปประกอบการแจ้งความดำเนินคดีที่ บก.ปปป. ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะนำเสนอให้ทราบต่อไป
