เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ม.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พาผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานไต้หวัน กว่า 15 ราย สูญเงินกว่า 2.6 ล้านบาท แจ้งความ พงส.บก.ปคม.
น.ส.เอ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า เพื่อนแนะนำบอกต่อๆ กันมาก่อนเข้าไปดูทางเพฟซุ๊ก ประกาศหาคนไปทำงานทีีไต้หวันต้องการแรงงานคนไทยไปทำงานโรงงานอีเล็คโทรนิคจึงได้ตัดสินใจสมัครงานบริษัทแห่งนี้ เขาถามพร้อมโอนเงินค่าใช้จ่ายครั้งแรกจำนวนเงิน 2 หมื่นบาท และบอกว่าตอนจะขอวีซ่าจะเรียกเงินอีก 5 พันบาท แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว กลับไม่ได้เดินทางสักที เลื่อนนัดมาตลอด มีนัดให้ไปตรวจโรคและพาไปทำพลาสปอร์ต
บริษัทเขาเปลี่ยนเฟซบุ๊กใหม่ มาสองครั้ง อ้างว่าโดนแฮกเฟซบุ๊กเอาไป
น.ส.บี บอกว่า ตนเข้าไปเห็นเฟซบุ๊กของบริษัทดังกล่าวโพสต์หาคนไปทำงานโรงงานอย่างถูกกฎหมายที่ประเทศไต้หวัน จึงสอบถามไปว่ามีงานทำเป็นคู่หรือไม่ เขาบอกว่ามี ถ้าพร้อมไปจะนัดไปตรวจโรคที่ รพ.รามาฯ ตนกับแฟนสมัครไปทำโดนโอนเงินไปคนละ 30,600 บาท ผ่านไปสองวันเรียกเงินอีก 3 หมื่นบาท จากนั้นก็มีการเรียกเก็บอีก 1.5 หมื่นบาท รวมแล้วจ่ายไป 106,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้เดินทางไปทำงานที่ไต้หวันสักที มีหลายคนทักมาแจ้งว่าเฟซฯ นี้หลอก ไม่มีใครได้ไปทำงานจริงๆ อ้างเหตุผลต่างๆ ในการเลื่อนการเดินทางไปไต้หวัน โอนเงินไปทางบัญชีของบริษัทจัดหางานโชคชนะ ที่ตั้งอยู่คลองสาม ปทุมธานี เมื่อไปแจ้งความ สภ.ท้องที่ก็ปฏิเสธไม่รับแจ้งความแนะนำให้ไปร้องกรมแรงงานเอง
น.ส.ซี เล่าว่าบริษัทฯ เขามีที่อยู่จริง จดทะเบียนจริงตั้งโชว์ให้เห็น เคยนัดไปยื่นวีซ่า แต่ยังไม่ทันได้ยื่นก็จัดเตรียมหาที่นอนให้วันนั้นไปกัน 54 คน วันแรกนัดไปตรวจโรค ได้ตรวจจริง วันที่สองจะไปยื่นขอวีซ่าบอกว่าเอกสารยังไม่ครบ นอนรอวันที่สามจะมีเจ้าหน้าที่เอาเอกสารกรมแรงงานมาให้เซ็นชื่อแต่กลับมีพระภิกษุเอาเอกสารมาให้ แจ้งว่าบริษัทเขารับงานจากกรมแรงงานโดยตรง มีการเรียกเก็บเงินไปคนละ 3-5 หมื่นบาท แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้เดินทางไปทำงานจริงๆ สักรายเดียว ให้กลับบ้านโดยให้เงินค่ารถคนละ 500 บาทเท่านั้น บอกว่าถ้าไม่เชื่อใจก็จะคืนเงิน แต่ทุกคนก็อดทนรอมานาน ตั้งแต่ 1 เดือนถึง 2 ปีก็ไม่เรียกให้เดินทางไปทำงานไต้หวันสักที
ก่อนจะตั้งกลุ่มไลน์ผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานไต้หวันได้จำนวน 34 คน จากทั้งหมด 200 กว่าคนที่สมัครไปทำงาน ได้นัดรวมตัวกันไปร้องกรมแรงงาน พระที่เป็นคนหางานบริษัทดังกล่าวพยายามขอเจรจาแต่มีการคืนเงินให้เป็นบางคน เช่นของตนได้คืน 3 หมื่นบาท จาก 4 หมื่นกว่าบาท
ด้านจ่าคิงส์เผย ผู้เสียหายบางคนต้องขายที่นามาเพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่าย บางคยต้องถูกยึดรถเพราะไม่มีเงินส่งค่างวด แถมไม่ได้ไปทำงาน ฝากไปถึงอธิบดีกรมแรงงานให้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนเหล่านี้ด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปคม.เร่งสอบปากคำผู้เสียหายก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายแรงานต่อไป