เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ม.ค.67 ที่ สำนักงานกฎหมาย ที.พี.แอนด์ แอสโซซิเอท จก.ชั้น 28 อาคาร จี ทาวเวอร์ ถนนพระราม 9
น.ส.นานา เจ้าหน้าที่ฝ่ายภาษา ของ สนง.กม. ที.พี.แอนด์ แอสโซซิเอท จก.
พร้อมทนายความ เปิดเผยความคืบหน้าที่ น.ส.เติ้ง (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ภรรยานักธุรกิจชาวจีน ที่อาศัยอยู่ประเทศสิงคโปร์
ร้องเรียนสื่อฯ กรณีซื้อกระเป๋า Hermes หนังจระเข้สีดำ ที่โพสต์ผ่าน Instagram โดยทางผู้เสียหายได้เห็นกระเป๋าใบดังกล่าวผ่านทาง Instagram Story จึงเกิดความสนใจและDMไปทางร้านโดยตรง และได้ตกลงซื้อขายใบละ 1.4 ล้านบาท
จากร้านขายสินค้ามือสอง ห้างดังย่านราชประสงค์ เมื่อ 1 ต.ค.66
พอวันที่ 2 ต.ค. ได้เอาไปให้สถาบัน TCF (The Catch Fake Institute) luxury authenticated ประเทศไทย และ ตรวจรับรอง ยืนยันว่าเป็นของปลอม
จึงติดต่อทางร้านขอคืน แต่ทางร้านอ้าง เอากระเป๋าไปแล้ว มีค่าเสื่อมสภาพ ผู้เสียหายจึงมอบอำนาจให้ตัวแทนสนง. เข้าแจ้งความ พงส.สน.ลุมพินี เมื่อ 6 ต.ค.66 ก่อนเดินทางกลับสิงคโปร์พร้อมสามี
หลังจากนั้นได้มอบอำนาจตัวแทนเข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี อีกครั้ง 1 พ.ย.66 ที่ผ่าน ภายหลังตัวแทนสนง. พร้อมกับตำรวจได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับทางร้านเพื่อคืนกระเป๋า แต่ทางร้านจะขอหักค่าเสื่อมสภาพ จำนวน30% (4.2แสนบาท) คืนให้แค่ 9.8แสนบาท ท้ายสุดยังหาข้อยุติและตกลงกันไม่ได้ จึงต้องร้องเรียนสื่อมวลชนประเทศไทยให้ทราบถึงพฤติการณ์ผู้ค้า เพราะทราบมาว่านอกจากผู้เสียหายรายนี้แล้ว อาจจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนอื่นก็โดนแบบเดียวกันอีกหลายคน ตรวจสอบทางกลูเกิ้ล ค้นหาพบว่ามีคนแสดงความเห็นกับทางร้านให้บริการในทางไม่ค่อยดีนัก
น.ส.เติ้ง ผู้เสียหาย กล่าวผ่านล่ามแปลภาษา ฝากไปถึงผู้รับผิดชอบว่าแม้ตัวเขาเองเข้ามาอาศัยพำนักอยู่ในเมืองไทยสักระยะแล้วก็ตาม ยังมองหาหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลนักท่องเที่ยวในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคยังยากเลย แล้วถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ดินทางมาประเทศไทยในระยะเวลาสั้น ๆ จะร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกร้านค้าเอาเปรียบขายของปลอมจะทำได้อย่างไร อยากฝากถึงผู้บริหารประเทศช่วยดูแลด้วย เกรงว่านักท่องเที่ยวที่โดนลักษณะเดียวกับตนซึ่งอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยอีก