กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.๑ บก.ปคบ.,พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์,พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ รอง ผกก.๑ บก.ปคบ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.๑ บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.1 บก.ปคบ.
ตรวจค้น บ้านเลขที่ 69/64 ซอย บางบอน 1 ซอย 9 แยก 3 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพฯ
ร่วมกันจับกุม น.ส.ธีรดา แดงเดช อายุ ๒๒ ปีโดยกล่าวหาว่า“ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีคำสั่งห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า (คำสั่งที่ ๙/๒๕๕๘ ) เรื่องห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า”บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า”) และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากความเดือดร้อนของประชาชนและกลุ่มผู้ปกครอง หลังพบบุตรหลานหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าการ์ตูนที่จำหน่ายในสื่อออนไลน์มาสูบ บางรายแอบเอาเงินที่ผู้ปกครองให้ไปใช้เป็นค่าเล่าเรียนไปหาซื้อเพื่อนำมาสูบ เพราะในปัจจุบันรูปแบบกลยุทธ์ของร้านบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ออกแบบหน้าตาของผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังแพร่หลายและมาทำเลียนของเล่นชื่อดังสร้างแรงดึงดูดให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงยังตบตาผู้ปกครอง ครู อาจารย์ในขณะพกพาไปโรงเรียนหรือตามที่สาธารณะ โดยผลสำรวจของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัจจุบันมีเยาวชนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 9.1 % หวั่นกระทบต่อเศรษฐกิจของครอบครัวและสุขภาพของบุคคลรอบข้าง
พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.๑ บก.ปคบ. ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าการ์ตูนตามช่องทางออนไลน์ พบว่าเพจเฟสบุ๊ค “King smoke” ซึ่งมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งมีการโฆษณา เปิดการกลยุทธ์ทางตลาดล่าเหยื่อ (ในกลุ่มของเยาวขน และเด็ก ) บุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบการ์ตูนซึ่งเหมือนของเล่น จนแยกไม่ออกเพราะมีขนาดเล็กทำเลียนแบบการ์ตูนเป็นเซ็ตของสะสมเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในกลุ่มเยาวชนและเด็กได้มากขึ้น จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดสูบแล้วทิ้งแบบการ์ตูน ต่อมาจึงได้สืบสวนขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีเงินหมุนเวียนต่อเดือน กว่า 1,000,000 บาท ซึ่งได้ขายให้กับผู้ค้ารายย่อยและปลีก เป็นจำนวนมาก จึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติมถึงเส้นทางการขนส่งและสถานที่ลักลอบกักตุนสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ สืบทราบว่า ผู้กระทำความผิด และมีโกดังเก็บบุหรี่ไฟฟ้าและสถานที่ใช้ในการแพคสินค้า เพื่อส่งต่อให้กับลูกค้า ออนไลน์ เพื่อหลบเลี่ยงการสืบสวนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รายงาน ให้ผู้บังคับบัญชา ทราบ และขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ขอหมายค้นสถานที่ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ บุหรี่ไฟฟ้าการ์ตูน และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าการ์ตูน ทั้งที่ยังไม่แพค และกำลังจัดส่งให้กับลูกค้ากว่า 300 รายการ มูลค่ากว่า 100,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลาง จับกุมและนำผู้ต้องหาดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดี และได้สืบสวนขยายผลถึงผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ต่อไป
