ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในปัจจุบันปัญหา ดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงและมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น โดยให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดด้านการค้ามนุษย์
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยพล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร, พ.ต.ท.กรกฎ โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ, พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์, พ.ต.อ.อภิฌาณ สวัสดิบุตร, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร,พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม, พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติดังนี้
“191 จับเยาวชนจัดหาเด็กค้ากาม ” จับกุมผู้ต้องหา นายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี พร้อมด้วยของกลาง
1.ธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ จำนวน 2,000 บาท
2.โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง
โดยแจ้งข้อกล่าวหา
1.ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีหรือผู้มีกายพิการหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6(2) และมาตรา 52 วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 6(2) ตาม พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พุทธศักราช 2551 พุทธศักราช 2562,มาตรา 52 วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 3 พุทธศักราช 2560,
2.เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดยกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 4, มาตรา 9 วรรคสาม,
3.เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคแรก,วรรคสาม, แก้ไขเพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2540 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 12,
4.รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 286(2) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 27) พ.ศ.2562 มาตรา 14,
5.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร โดยได้กระทำไปเพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคหนึ่ง,วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 11,
6.บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือให้เด็กแสดงหรือ กระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26,78”
รายชื่อเหยื่อจากการค้ามนุษย์
1.ด.ช.เอ(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี วัน เดือน ปี ที่ตรวจค้น/จับกุม วันที่ 13 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 15.40 น.
พฤติการณ์กล่าวคือ วันนี้ (13 ม.ค. 67) เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์ลักลอบนำเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ปี มาส่งให้กับลูกค้าเพื่อการค้าประเวณีตามสถานที่ต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนล่อซื้อประเวณี โดยนายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) แจ้งว่าค่าตัวเด็ก 2,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อทำการสืบสวนจับกุม
ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 13 ม.ค. 2567 สายลับได้นัดหมายให้นายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) นำเหยื่อหรือบุคคลผู้ค้าประเวณี ซึ่งเป็นเด็กชายมีอายุไม่เกิน 15 ปี มาส่งให้กับสายลับบริเวณห้องพักภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซ.วิภาวดีรังสิต 42 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะได้ร่วมประเวณี
ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 13 ม.ค. 2567 นายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) ได้พาด.ช.เอ(นามสมุติ) นั่งรถแท็กซี่มาลงที่บริเวณทางเข้าโรงแรม และได้พาด.ช.เอ(นามสมุติ) พบกับสายลับ จากนั้นสายลับจึงส่งมอบเงินจำนวน 2,000 บาท ให้กับนายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) และได้ส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณโรงแรมดังกล่าวทราบ จากนั้นนายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) เดินออกมาบริเวณทางเข้าโรงแรม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้น พบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้ออยู่ในโดยนายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) กำอยู่ที่มือ และพบโทรศัพท์มือถือ อยู่ในกระเป๋ากางเกงตรวจสอบมีข้อความการติดต่อซื้อประเวณีกับสายลับ สอบถามนายพีรพัฒน์ฯ(ผู้ถูกจับ) ให้การรับสารภาพว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการพาด.ช.เอ(นามสมมุติ) ไปส่งให้กับลูกค้าเพื่อการค้าประเวณี โดยเมื่อได้รับเงินแล้วจะแบ่งให้ด.ช.เอ(นามสมมุติ) 1,000 บาท นายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) จะได้ 1,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบ นำตัวนายพีรพัฒน์ หรือมิก (สงวนนามสกุล) ส่ง สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วน ด.ช.เอ(นามสมมุติ) ซึ่งพบว่ามีอายุ ๑3 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมคัดแยกเหยื่อกับนักสังคมสงเคราะห์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผลการคัดแยกปรากฏว่า ด.ช.เอ(นามสมมุติ) เป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จึงได้ส่งตัวไปรับการคุ้มครองยังสถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด(บ้านภมิเวท)