สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้เสียหายได้รับ SMS ให้ติดต่อเข้ามาให้ยกเลิกโครงการคนละครึ่ง พร้อมแนบลิงก์ ผู้เสียหายจึงได้กดลิงก์ตามที่แนบมา ซึ่งคล้ายกับโครงการคนละครึ่งของกระทรวงการคลัง และได้กรอกข้อมูลส่วนตัวจากนั้นมีการให้ยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP
จากนั้นมีคนร้ายได้โทรเข้ามาเพื่อให้สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน ในระหว่างที่มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ คนร้ายได้เข้าควบคุมโทรศัพท์ของผู้เสียหายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อโทรศัพท์ใช้งานได้ตามปกติพบว่าเงินในบัญชีธนาคารได้ถูกโอนออกจากบัญชี จำนวน 4 ครั้ง รวมจำนวนเงิน 376,733 บาท เชื่อว่าตนเองถูกคนร้ายหลอกลวง จึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาและพวกจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท. 3 ,พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 กวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าว
ต่อมาวันที่ วันที่ 21 ม.ค.67 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.รัตนากร อายุ 22 ปี ซึ่งถูกออกหมายจับโดยศาลจังหวัดนครราชสีมา ในความผิดฐาน ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยรวมเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกัน โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการวางแผนจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะเดินอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จว.นครราชสีมา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 มาดำเนินคดีได้ในที่สุด โดยก่อนหน้านี้ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สามารถสืบสวนจับกุมผู้ร่วมเปิดบัญชีในขบวนการนี้มาแล้ว 1 ราย
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3,
พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สั่งการให้
พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์, พ.ต.ต.ธวัช
ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม