วันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้วันพุธที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 11.00 น. ที่ ศาลาแก้ว อาคารรัฐสภา ถนนเกียกกาย กทม.อรรณพ บุญสว่าง ทนายความ จะพานางปราณี(สงวนนามสกุล)ชาวบ้าน อ.บางบ่อ สมุทรปราการ ที่ได้รับความ้ดือดร้อนถูกวัดไล่ที่เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร
นายอรรณพ เปิดเผยว่า ด้วยมีอุบาสกผู้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้สั่งเสียลูกหลานไว้ว่า หากเมื่อสิ้นบุญตนแล้ว ให้นำที่นาถวายเป็นพุทธบูชาแก่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย(ต่อมาคือวัดมงคลโคธาวาส) โดยเดิมทีนั้นมีผู้เช่าที่ดินทำนาอยู่ก่อนแล้ว วัดมงคลโคธาวาสก็ได้รับข้าวสารบ้าง ค่าเช่าที่ทำนาบ้างตลอดเรื่อยมา จนกระทั่งความเจริญเข้ามาสู่ที่ดิน ทางวัดมงคลโคธาวาสจึงได้มีการจัดสรรแบ่งที่ดินเพื่อให้เช่าปลูกที่อยู่อาศัย และดำเนินการขอบริจาคที่ดินของนายเสนาะ นาคเกิดเป็นทางเข้าออก โดยนายเสนาะ นาคเกิดได้กล่าวว่าขอถวายที่ดินให้หลวงพ่อปาน(วัดมงคลโคธาวาส)เท่านั้น และต่อจากนั้นวัดมงคลโคธาวาสได้มีการระดมทุนทรัพย์เพื่อถมที่ดินและทำถนนจัดสรรให้บุคคลทั่วไปเช่าอยู่อาศัยเรื่อยมา
จนกระทั่งเมื่อปีพุทธศักราช2561 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในขณะนั้น ได้มีหนังสือถึงสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ สาขาบางพลี ให้แก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากเดิม “ที่ดินธรณีสงฆ์วัดคอลาด วัดโคธาวาส” เป็น “ที่ธรณีสงฆ์วัดคอลาด”
ต่อมาเจ้าอาวาสวัดคอลาด ได้ทำการขับไล่ชาวบ้านผู้เช่าอาศัยออกจากที่ดินดังกล่าว โดยอ้างว่าชาวบ้านบุกรุก ทั้งที่ชาวบ้านผู้เช่ามีสัญญาเช่ากับวัดมงคลโคธาวาส และยังชำระค่าเช่ารวมถึงปฏิบัติตามสัญญาเช่าสมบูรณ์ทุกประการ แต่ทางวัดคอลาดก็ยังดำเนินการขับไล่ดังปรากฏภาพพระภิกษุขับรถแบ็คโฮเข้าทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน
นางปราณี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดังกล่าว เห็นว่าการดำเนินการของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ต่อคณะสงฆ์ และศาสนสมบัติ กระทำไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ชาวบ้านเดือดร้อนและเกรงกลัวอิทธิพลของบุคคลบางกลุ่ม จึงร้องขอความเป็นธรรมมายังท่านประธานกรรมาธิการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ขอความกรุณาได้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมด้วย