วันศุกร์, ตุลาคม 18, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งอ้างตำรวจเมืองพิษณุโลกโทรสแกนหน้า หลอกโอนเงินเกือบแสน

Related Posts

ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งอ้างตำรวจเมืองพิษณุโลกโทรสแกนหน้า หลอกโอนเงินเกือบแสน

สืบเนื่องจากช่วงบ่ายของวันที่ 15 ม.ค.66 มีมิจฉาชีพโทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ชื่อดัง แจ้งว่าผู้เสียหายได้เปิดบัตรเครดิตของธนาคารที่จังหวัดพิษณุโลกไว้ มียอดค้างชำระ 3 เดือน รวมเป็นเงิน 57,777 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้ปฏิเสธไป คนร้ายจึงได้แจ้งว่าข้อมูลของผู้เสียหายอาจมีคนแอบอ้างไปเปิดบัตรเครดิต ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งผู้เสียหายไม่สะดวก คนร้ายจึงแนะนำให้แจ้งความออนไลน์ โดยให้แอดไลน์ สภ.เมืองพิษณุโลก

ต่อมา มิจฉาชีพได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก อ้างตัวเป็นร้อยเวรเจ้าของคดี จากนั้นให้ผู้เสียหายเปิดกล้องเพื่อสแกนใบหน้าอ้างว่าเพื่อตรวจสอบข้อมูล ต่อมาคนร้ายได้ส่งเอกสารหลักฐานทางไลน์ดังกล่าว เพื่อแสดงว่าผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจริง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องอายัดบัญชีธนาคารและทรัพย์สิน พร้อมกับส่งภาพบุคคลที่อ้างว่าเคยเป็นผู้จัดการธนาคารที่ผู้เสียหายอาจถูกนำข้อมูลไปทำการเปิดบัญชีเกี่ยวพันกับการฟอกเงิน

จากนั้น มิจฉาชีพแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงิน โดยหลอกว่าเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ให้โอนไปทำการตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป ครั้งแรก จำนวน 48,391.65 บาท และครั้งที่สองโอนไป จำนวน 37,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 85,391.65 บาท หลังจากนั้นแชทไลน์ดังกล่าวก็โดนบล็อกไป และไม่สามารถติดต่อกับบัญชีไลน์ดังกล่าวได้อีก ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนสอบสวนเพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าวมาลงโทษตามกฎหมาย

กระทั่ง ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวน จนทราบว่า นายวรพงศ์ ฯ อายุ 27 ปี ซึ่งถูกออกหมายจับโดยศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ถ.เทศบาล 12 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จว.สระแก้ว จึงวางแผนเข้าจับกุม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 มาดำเนินคดีได้ในที่สุด

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3
สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์,
พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ, พ.ต.ต.ขจร แย้มชม สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts