ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ด่านพัทยา นางรัชนี วรรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์คนไร้ที่พึ่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 , นายวรภพ คงธนจรัส ปลัดอำเภอบางละมุง,นางสาวเบญจมาศ ลิ้มสุขศิริ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ (พมจ.), นายคมกฤช พลวิชิต หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี ร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาเร่ร่อน ขอทาน ในพื้นที่เมืองพัทยา หลังมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ร้องเรียน ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย โดยการปฏิบัติการกวาดล้าง ขอทานในพื้นที่เมืองพัทยาในครั้งนี้ แบ่งการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 จุด ประกอบด้วย ตลาดวัดชัย ถนนพัทยาสาย 2 และถนนสายชายหาด ซึ่งผลการปฏิบัติการสามารถจับขอทานได้ 4 คน เป็นคนไทย 3 คน และขอทานชาวกัมพูชา 1 คน นอกจากนี้ยังจับคนไร้ที่พึ่ง 1 คน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจสอบประวัติเพื่อคัดแยก ก่อนดำเนินคดีตาม พรบ.ขอทาน ด้านนางรัชนี วรรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์คนไร้ที่พึ่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการกับขอทานนั้นแบ่งการดำเนินการคือ หากเป็นขอทานคนไทยจะมีการคัดกรอง ตรวจสอบประวัติ ตรวจสอบทรัพย์สิน ลงบันทึกประจำวันและเปรียบเทียบปรับ พร้อมตรวจสอบภูมิลำเนา หากพบเป็นการกระทำผิดครั้งแรกจะทำการบันทึกตักเตือน หากกระทำผิดซ้ำก็จะดำเนินการตามพรบ.ควบคุมขอทาน และหากภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ชลบุรีก็จะลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้หากอยู่ในจังหวัดอื่นกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในจังหวัดนั้นจะลงพื้นที่เยี่ยมบ้านตรวจสอบข้อเท็จจริง สภาพปัญหา และให้ความช่วยเหลือตามสภาพความเป็นจริง ส่วนหากเป็นขอทานต่างด้าวกระบวนการจะจะเหมือนคนไทยมีการเปรียบเทียบปรับ หลังเปรียบเทียบเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำเรื่องส่งอัยการฝากขัง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองผลักดันกลับประเทศต้นทาง ทั้งนี้หากเป้นขอทานแม่ลูก ก็จะมีการส่งตรวจตรวจหาสารพันืกรรมว่าเป็นแม่ลุกกันจริงหรือไม่ ณ สถานคุมครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดนนทบุรี หากก็จะดำเนินคดีความผิดตามพรบ.การค้ามนุษย์
ทั้งนี้ปัจจุบันปัญหาขอทานในพื้นที่เมืองพัทยามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหลังสถานการณ์ โควิด-19 ดีขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น จึงทำให้มีกลุ่มขอทานต่างด้าวเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งแต่ลงพื้นระดมกวาดล้างจับกุมก็ยังไม่พบขอทานคนเดิม แต่บ้างคนเคยถูกจับแต่จะถูกจับในพื้นที่อื่น ๆ จึงมองว่าอาจจะเป็นการเคลื่อนย้ายจากจังหวัดอื่นมาในเมืองพัทยา อย่างไรก็ตามขอฝากถึงคยไทจทุกคนบ้างทีความใจดีของคนไทยเป็นการส่งเสริมการกระทำที่ผิดกฎหมาย ด้วยขอทานต่างด้าวหลายคนที่เข้ามาขอทานในประเทศไทยจำนวนมากต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนไทยใจดี ทั้งนี้หากอยากจะทำบุญให้ทำให้ถูกที่ จะได้ไม่ส่งเสริมการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นการสนับสนุนขอทาน
