ที่ โรงเรียนบ้านหนองชากแง้ว นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประชุมติดตามแก้ไขเหตุข้อร้องเรียนการเผาถ่านสร้าง ความเดือดร้อนในท้องที่ ตำบลห้วยใหญ่ จึงร่วมกับหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย อำเภอบางละมุง, ศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 2, สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี, ศูนย์ดำรงธรรม จว.อ.บางละมุง ตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี, สภ.ห้วยใหญ่, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด, ปปช.จว., สำนักงานสิ่งแวดล้อมควบคุมมลพิษพื้นที่ 13 (ชลบุรี) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัด ,ศูนย์อนามัยพื้นที่ 6 จังหวัด, สำนักงานสาธารณสุข จังหวัด, โรงพยาบาลบางละมุง, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบการเผาถ่าน และผู้ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมหารือหาทางออก
นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ผลกระทบจากควันเผาถ่าของกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพเผาถ่านหมู่ที่ 10 ต.ห้วยใหญ่ เป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานาน ภาครัฐ รวมทั้งท้องถิ่น ได้พยายามแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ยอมรับว่าอาชีพเผาถ่านเป็นอาชีพดังเดิมมาแต่อดีตของคนในพื้นที่ชาวห้วยใหญ่ หมู่ที่ 10 บ้านซากแง้ว ที่นำมาใช้ในครัวเรือน จนกายมาเป็นอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ปัจจุบันชุมชนขยายตัวขึ้นทำให้ส่งผลกระทบด้านมลพิษต่อประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีการร้องเรียนมายังภาครัฐเพื่อช่วยหาแนวทางแก้ไขปัญหา เรื่องควันจากการเผ่าถ่าน ด้วยส่วนใหญ่ประชาชนปลูกบ้านพักอาศัยระบบเปิด ควันจากการเผาถ่านแต่ละครั้งนั้นต่อรบกวนกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้แสบตา หายใจติดขัด หลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท้จจริงพบว่ามีผู้ประกอบการในลักษณะโรงงานเผาถ่าน ที่ขึ้นลงทะเบียนไว้กับเทศบาลตำบลห้วยใหญ่ จำนวน 19 ราย มีเตาเผาถ่านจำนวน 79 เตา ซึ่งในปี 2563 มีเตาเผา 101 เตา โดยทราบว่ากลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนประกอบกิจการในฐานะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากทางเทศบาลห้วยใหญ่ และดำเนินการจัดทำระบบควบคุมกลิ่นและเขม่า มีหลังคาคลุม และปิดเตาเผาด้วยผ้าใบ พร้อมฉีดพ่นสเปรย์น้ำ พร้อมทั้งติดตั้งพัดลมดูดอากาศ แต่มีผู้ประกอบการบางรายที่ทำเตาเผาถ่านในลักษณะเปิดโล่ง
ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า มีผู้คนในชุมชนได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่น และเขม่าควัน ดังนั้นทางคณะทำงานฯ จึงได้ร่วมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา ของพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลห้วยใหญ่ โดยมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเพื่อติดตามแก้ปัญหาระยะยาว ทั้งนี้อย่างไรก็ตามผู้ประกอบกาต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อไม่ให้เกิดข้องร้องเรียน ส่วนปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวนั้นได้มอบหมายให้ทางตำรวจ ตม. และตำรวจพื้นที่ต้องไปดำเนินการเรื่องนี้ว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะไม่ยินยอมให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ หากพบผู้ประกอบการต้องหาแรงงานใหม่มาทดแทน การทำงานแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแยกการแก้ไขออกเป็นที่ละปัญหา โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นร่วมกันหาทางออกที่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้คงจะไม่ใช้หลักกฎหมายมาบังคับใช้เพียงอย่างเดียว
โดยหลังจากนี้หน่วยงานต่าง ๆ จะร่วมแก้ไขอย่างจริงจัง พร้อมทั้งนี้ทางเทศบาลตำบลห้วยใหญ่ยังได้กำหนดมาตรการเพื่อควบคุมไม่ให้มีผู้ประกอบการเผาถ่านรายใหม่เกิดขึ้น โดยจะคงให่มีผู้ประกอบการเผาถ่านเพียง 19 รายที่ลงทะเบียนไว้กับเทศบาลเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นนอกเหนือจาก 19 ราย ให้ยุติการประกอยกิจทันที ทั้งนี้เชื่อว่ามาตรการและทางออกที่ภาครัฐร่วมกันจะดีขึ้น การประกอบกิจการเผาถ่านจะต้องมีการปรับตัวให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ เช่นเรื่องการควบคุมการเผาถ่านแบบระบบปิด ส่วนเรื่องการตรวจสอบการประกอบกิจการนั้น เบื้องต้นได้เชิญภาคประชาชนและชาวบ้านพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นตัวแทนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการประกอบกิจการว่าดำเนินการตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนดหรือไม่ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการเผาถ่าน ก่อเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญให้กับชุมชนอีกต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่าหลังประชุม ทางคณะทำงาน นำโดยนายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมคณะทำงานได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบกิจการเปาถ่านของชาวบ้านหมู่ที่ 10 บ้านซากแง้ว ทั้ง 19 ราย.