ชุดสืบสวน “บกน.9” ตามจับมือปืนยิงวัยรุ่นย่านท่าข้ามดับได้แล้ว หลังกบดานในบ้านเช่าย่านซอยแสมดำ 2 บางขุนเทียน ก่อนตามไปจับเพื่อนอีกคนที่พาขี่จยย.ให้ซ้อนก่อเหตุ ด้านเพื่อนร่วมก๊วนรู้ทันเกมโร่มอบตัวกับตำรวจแล้ว
จากกรณีอันธพาลโผล่ครองเมือง! โจ๋วัย 17 ขี่ จยย.มาพร้อมเพื่อน ถูกแก๊งแว้นซ่านับสิบ ซิ่ง จยย.ไล่ประกบยิง-ฟัน สังเวย 1 ศพ เจ็บอีก 1 ราย ตร.เร่งแกะวงจรปิดลากคอก๊วนแสบดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยเมื่อเวลา 04.45 น. วันที่ 19 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.อภิชัย สีสังข์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบริเวณถนนคู่ขนานพระรามสอง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นช่วงคู่ขนานพระรามสองขาออก เลยโลตัสพระรามสอง 1 กิโลเมตร ใกล้เคียงปั้มน้ำมัน ปตท. พบร่างนายภูวนาท แก้วนิล อายุ 17 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณหลัง นุ่งกางเกงยีนส์ นอนเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิ๊ก 125 ไอ สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1กข 5862 ระยอง สภาพล้มตะแคงด้านหน้าได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดที่พื้นใกล้กับเสาไฟฟ้าริมทางเท้า ซึ่งห่างออกไป 10 เมตร และมีผู้บาดเจ็บขาหัก อีก 1 ราย คือ นายปฐวี จิตต์แก้ว อายุ 17 ปี คนซ้อนรถจักรยานยนต์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร
จากการสอบสวนนายณัฐพล ปิ่นมอญ อายุ 18 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปพบกับผู้ตายแถวโรงพยาบาลบางประกอกแปด โดยที่นายปฐวี ได้ชักชวนให้ไปเอาของที่หมู่บ้านพิมานต์ ก่อนจะขับออกมามุ่งหน้าถนนพระรามสองขาออก ระหว่างทางพบกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน ไล่ตามประกบ และมีการใช้อาวุธมีดและปืนทำร้ายร่างกาย ก่อนที่รถของนายภูวนาทจะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า ทำให้นายปฐวีที่นั่งซ้อนท้ายกระเด็นตกลงมา ส่วนคนขับและรถไถลไปไกลกว่า 10 เมตร เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง
สำหรับไทม์ไลน์ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้น เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 3 กว่าๆ โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คันโดยคนเสียชีวิตและคนเจ็บนั่งซ้อนกันมา ส่วนอีก 1 คันเป็นของเพื่อนคนเจ็บที่นั่งซ้อนกุนมากับแฟนสาว ซึ่งก่อนเกิดเหตุเดินทางเดินทางไปส่งเพื่อนแก้วย่านบางปะแก้วก่อนกลับมาไปเอาของที่ซอยพิมาน (ซอยข้างโลตัสพระราม 2 )
ระหว่างออกจากซอยกลุ่มของผู้ตายได้พบเจอกับกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ 6 คัน ซ้อน 2 รวมทั้งหมด 14 คน สวนผ่านหน้าไป ก่อนที่กลุ่มของผู้เสียชีวิตจะเลี้ยวขวาออกจากซอย แต่ขณะนั้นปรากฏว่ากลุ่มของผู้ก่อเหตุขับรถตามมา โดยระหว่างทางผู้เสียชีวิตถูกยิงเข้าที่หลังก่อน 1 นัด หลังจากนั้นเสียหลักล้มบริเวณถนนคู่ขนานพระรามสองขาออกมาประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งตอนนั้นเพื่อนของคนเจ็บและแฟนสาวได้ถูกกลุ่มของคนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปถึงย่านบางกระดี่แต่สุดท้ายก็สามารถรอดออกมาได้
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม ได้เรียประชุมฝ่ายสืบสวน และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า จากการสอบปากคำเพื่อนผู้ตายบอกว่าไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ตายมาก่อน แต่ขณะที่ขับรถออกจากซอยพิมาน กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ขับรถไล่ตามเพื่อมาทำร้าย เบื้องต้นได้แบ่งงาน และสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามไล่กล้องวงจรปิด และจิดตามตัวคนร้าย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้
ขณะที่นางเกศินี เดชปรารมย์ แม่ของผู้เสียชีวิตบอกว่า ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนหลังให้ปากคำกับตำรวจ ว่า ส่วนตัวไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก่อน ก่อนที่ลูกจะมาถูกยิงลูกได้ทำงานและเรียนไปด้วย แต่ช่วงระยะเวลานี้ตกงานอยู่กับบ้านเลี้ยงดูน้อง และมีการติดต่อกันครั้งล่าสุดเวลา 15:00 น ของวันที่ 18 มีนาคม โดยตัวเองได้สั่งให้ผู้เสียชีวิตเก็บเสื้อผ้าของตัวเองและของน้อง เพื่อเตรียมไปเข้าค่ายน้องที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ไม่มีลางสังหรณ์อะไรที่ผิดปกติ จนมาทราบเรื่องว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ส่วนตัวยืนยันว่าลูกชายไม่เคยไปหาเรื่องบุคคลอื่นก่อน ยอมรับว่าเมื่อเห็นสภาพศพของลูกชายเป็นเหตุที่อุกอาจมาก เกินจะรับได้ ส่วนรายละเอียดของคดีให้ไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจ แต่ส่วนตัวเนี่ยไม่ยอมและขอให้ตำรวจเนี่ยดำเนินคดีกับเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด อยากฝากไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุให้มามอบตัวจากหนักจะได้กลายเป็นเบา
นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าซอยพิมานในเวลาประมาณตีสามจะเห็นภาพรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่สอนมากับเพื่อนหนึ่งคันและรถจักรยานยนต์ของเพื่อนผู้ตายที่ซ้อนมากับแฟนสาวอีกหนึ่งคันขับตามกันมาเข้าไปภายในซอยดังกล่าว ประมาณหนึ่งโดยอยู่ภายในซอยประมาณหนึ่งถึง 2 นาทีก่อนที่จะขับรถออกจากซอยแต่จังหวะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นคู่กรณีขับรถผ่านด้านหน้าปากซอยจำนวน 6 คัน ก่อนที่จะกลับรถเพื่อขับไล่ตามประกบรถของผู้ตายและเพื่อนตามไปทันที ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดตัวนี้อยู่ห่างจากจุดที่เจอศพประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งบริเวณจุดนี้มีกล้องวงจรปิดของกรมทางหลวงบนสะพานลอยและกล้องของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่น่าจะสามารถจับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้แต่ยังไม่มีการเผยแพร่คลิปออกมาและมีรายงานว่าชุดสืบสวนได้รับกล้องวงจรปิดมาแล้ว
14.00 น. วันที่ 19 มีนาคม 2565 พล.ต.ต.พงอานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล เรียกประชุมชุดตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน ของกองบังคับการ ตำรวจนครบาล 9 และ สน.ท่าข้าม เพื่อประชุมแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและเร่งสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
โดยผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ก่อนการประชุมว่า ขณะนี้ได้ส่งกำลังตำรวจชุดสืบสวนของกองกำกับการตำรวจนครบาล 9 และสืบสวน สน.ท่าข้าม ลงพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงเพื่อควานหาพยานหลักฐานรวมถึงพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์แล้ว
อย่างไรก็ตามมูลเหตุจูงใจการก่อเหตุของคนร้าย จะเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษาหรือไม่นั้นยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามได้ ดังนั้นขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน อีกสักระยะคงไม่เกิน 1-2 วันนี้จะสามารถตั้งประเด็นการก่อเหตุคราวนี้ได้
ทั้งนี้ในระหว่างที่ตำรวจกำลังประชุม เพื่อแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ทางด้านพ่อและแม่ผู้ตายได้เดินทางมา ให้ปากคำเพิ่มเติม ที่ สน. ท่าข้ามโดยเลี่ยงที่ประจันหน้ากับสื่อมวลชน ซึ่งนี้มีตำรวจนายหนึ่ง ระบุว่าเหตุที่พ่อแม่ผู้เสียชีวิตเลี่ยงที่จะพบกับสื่อมวลชนเนื่องจาก กลัวว่าการให้สัมภาษณ์จากกระทบกับคดี
ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เรียประชุมฝ่ายสืบสวน และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า จากการสอบปากคำเพื่อนผู้ตายบอกว่าไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ตายมาก่อน แต่ขณะที่ขี่รถออกจากซอยพิมาน กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ขี่รถไล่ตามเพื่อมาทำร้าย เบื้องต้นได้แบ่งงาน และสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามไล่กล้องวงจรปิด และติดตามตัวคนร้าย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้
ด้ายนายโสภณ พ่อคนตาย กล่าวว่า ยอมรับว่า ลูกชายออกมาข้างนอกในยามวิกาล บอกว่าจะไปเอาของที่บ้านเพื่อนย่านบางปะแก้ว มาทราบว่าอีกทีลูกชายก็ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนมาทราบข้อมูลจากเพื่อนของลูกชายว่าช่วงเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถ จยย.ประมาณ 6 คัน คันละ 2 คน ผ่านกลุ่มเพื่อนลูกชายจำนวน 4 คนที่อยู่ข้างถนน จากนั้นจึงขับรถจยย.วนกลับมาและใช้ปืนยิงใส่แล้วหลบหนีไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ บริเวณปากซอยพิมาน ระบุเวลา 03.48 น. พบรถ จยย.ของกลุ่มผู้ตาย จำนวน 2 คัน 4 คน ขี่เข้าไปในซอยพิมาน และอยู่ภายในซอยประมาณ 1 นาที จากนั้นเวลา 03.49 น. กลุ่มผู้ตายได้ขี่รถออกมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ขี่ผ่านมาบริเวณปากซอย เมื่อเห็นกลุ่มผู้ตายจึงกลับรถขี่ตามประกบก่อนก่อเหตุยิงผู้ตาย ห่างจากปากซอยที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร
จากการไล่เส้นทางการหลบหนีของคนร้ายทำให้ทราบว่า คนร้ายทั้งหมดได้ขี่รถ จยย.หลบเข้าไปจอดที่หลังวัดบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และคนร้ายได้ทิ้งรถ จยย.ไว้ 1 คัน เป็น จยย.ฮอนด้า เวฟ110i สีน้ำเงิน เทา ทะเบียน 6 กฌ 7304 กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองคือนายโซ่ อายุ 25 ปี ชาวเมียนมา พักอยู่ที่แคมป์คนงานก่อสร้างของหมู่บ้านสิรินดา หลังวัดบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ กก.สส.บกน.9 สามารถจับกุมตัว นายทัศน์พล หรือ โต คำมา อายุ 19 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยแสมดำ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ก่อนนำตัวไปสอบสวนและค้นหาอาวุธปืน รวมทั้งติดตามจับกุม นายธนากร หรือ เก่ง อุทยา อายุ 19 ปี คนขับขี่รถ จยย.คันก่อเหตุได้ที่บ้านพักในพื้นที่ท่าข้าม อย่างไรก็ตาม นายธนวัฒน์ หรือ อั้ม เพ็ญสงคราม อายุ 19 ปี 1 ในกลุ่มคนร้าย ได้ประสานเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม หลังจากทราบว่าเพื่อนโดนจับหมดแล้ว ทำให้คดีนี้สามารถจับกุมมือปืน และผู้ร่วมก่อเหตุได้รวมทั้งหมด 3 ราย