เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ 19 ก.พ. ที่หัอง ศปก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค2 (หัวหน้าทีมชุดสืบสวนสอบสวน) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค2 และ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้เรียกคณะทำงาน เข้าประชุมสรุปข้อมูลความคืบหน้าของคดีสาวชาวจีน อายุ 29 ปี อ้างว่าถูกคนร้ายเป็นชายปลอมเป็นวินจยย. ลากเข้าป่าจับมัดมือเท้า พยายามข่มขืน แล้วเผาป่าเพื่อทำลายหลักฐานในการสืบสวนนั้น
พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค2 ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ทางตำรวจอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานปรากฎว่ามีมูลว่าเกิดขึ้นจริง และอยู่ในระหว่างการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งในวันเกิดเหตุสาวชาวจีน ผู้เสียหาย ระบุว่า เธอกับน้องชายได้เรียกหาวินจยย.รับจ้าง เพื่อไปส่งยังถนนคนเดินวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ปรากฎว่าคันที่น้องชายเรียกเป็นวินจยย.รับจ้างจริง จากนั้นคนร้ายได้ขับจยย.เข้ามาสวมรอยเป็นวินจยย.รับจ้างเข้ามาสบทบ โดยชายวินจยย.ทั้งสองคน สอบแล้วไม่รู้จักกันมาก่อนจากนัันตัวสาวชาวจีน ได้นั่งรถจยย.คนร้ายไป ส่วนน้องชาย ได้ไปกับวินจยย.อีกคัน
ระหว่างที่ทั้งสองทางขับตามกันเพื่อไปส่งยังจุดหมายปลายทาง แต่ปรากฎว่ารถทั้งสองคันเกิดคลาดเคลื่อนกัน โดยคันของน้องชายขับนำหน้าไป แต่สุดท้ายคันของสาวชาวจีนกลับถูกคนร้ายที่สวมรอยเป็นวินจยย. ได้เกิดเลี้ยวเข้าไปในป่าใช้กำลังฉุดกระชากลาก และพยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ เมื่อคนร้ายเห็นท่าไม่ดี เอาสายกระเป๋าสะพายของเหยื่อสาวชาวจีนหมัดมือเท้า ก่อนจะใช้ไฟเผาทำลายหลักฐานทั้งหมด แล้วชิงเอาเงินสดประมาณ 10,000 บาท และเงินสกุลต่างประเทศอีก 1,500 หยวน หลบหนีไป ก่อนที่เหยือสาวชาวจีนจะดิ้นสุดชีวิตจนสายกระเป๋าที่มัดหลุด แล้ววิ่งมานอนหมอบอยู่ตรงจุดที่พบกางเกง หลังจากนั้นได้เดินกลับไปหาโทรศัพท์ที่ตกอยู่ขณะหลบหนี โทรแจ้งขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนพอทราบตัวคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นบุคคลที่ตำรวจสงสัยหรือไม่ คงต้องรอพยานหลักฐานมาประกอบเพิ่มเติม เพื่อจะขออำนาจศาลออกหมายจับ ส่วนสาวชาวจีน และน้องชาย พบว่าเพิ่งเดินทางเข้าประเทศไทยมาเพียง 2 วัน ในฐานะนักท่องเที่ยว โดยที่ครอบครัวของเหยื่อนั้นเดินทางมาก่อน และทางตำรวจได้เร่งทำงานอย่างสุดความสามารถ เพราะว่าเป็นคดีก่อให้ประเทศไทยเกิดความเสียหายอย่างหนัก พร้อมขอความร่วมมือในการปกปิดข้อมูลของผู้เสียหาย เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิ์ และความลำบากใจแก่เหยื่อ
ซึ่งพบว่าขณะนี้พบว่าตัวเหยื่อสาวชาวจีนมีอาการดีขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างดี ส่วนหนังสือเดินทางที่ถูกคนร้ายเผาทำลายทิ้ง เบื้องต้นได้ประสาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยื่นเรื่องขอทำหนังสือเดินทางใหม่ให้กับตัวเหยื่อ โดยยังคงเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจไทย.