วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมบิ๊กเต่า ยืนยัน มีหลักฐานพยาน ที่เชื่อมโยง คดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ รอทาง ปปช. ส่งสำนวนกลับมา ไม่หวั่นโดนฟ้อง เพราะทำงานตามพยานหลักฐาน

Related Posts

บิ๊กเต่า ยืนยัน มีหลักฐานพยาน ที่เชื่อมโยง คดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ รอทาง ปปช. ส่งสำนวนกลับมา ไม่หวั่นโดนฟ้อง เพราะทำงานตามพยานหลักฐาน

วันนี้ (21 ก.พ 67 ) ที่ อาคารพิทักษ์สันติ ชั้น 27 สำนักงาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึง คดีมินนี่เว็บพนันออนไลน์ ว่า คณะกรรมการ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งตน ในการสืบสวนคดีมินนี่ และเป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เปิดเผยว่า ส่วนคดีมินนี่แยกได้เป็น 2 ส่วน คนแรก 61 คน ที่แยกเป็นเจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ดำเนินการในส่วนของ ศาลทุจริต 14 คน และดำเนินคดีศาลอาญา 47 คน รวมทั้งหมด 61 คน ส่วนคดีหลัก จากการสืบสวนได้พบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องอีก 5 ราย ทั้งข้าราชการ และนอกข้าราชการ และคดีที่ 2 ได้ส่งไปที่ ปปช. เพื่อให้ ปปช. พิจารณา ส่งกลับหรือไม่กลับ แต่ในเนื้อหา ขอความร่วมมือเพราะเป็นเหตุที่เกี่ยวพันกับคดีแรก คดีหลัก 61 คน ส่วนคดีรอง เป็นผู้ต้องหาจากคดีแรก 5 คน

ส่วนสอบถาม ไปว่า ในคดีรอง มีบิ๊กโจ๊ก เข้าไป เป็นคนใน 5 นั้นหรือไม่ บิ๊กเต่าบอกว่า ตามที่เป็นข่าว และ ส่วนของสำนวนคดีที่ 2 ที่ ปปช. ทางตำรวจเห็นว่า เอามาดำเนินการเองด้วยเหตุผล การดำเนินคดี เป็นสำนวนหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ8 คน ส่วนจำนวนรองก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 คนที่พบ ตรงนี้ถ้าเราสามารถเอากลับมาดำเนินคดีได้ จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน ในการดำเนินคดีเพราะ ถ้าไม่มา การสั่งหรือการชี้แจงเหตุผลจะต่างกัน เพราะถ้าเป็นเนื้อเดียวกันเรา ทำหนังสือขอไปแล้วว่า ต้องการที่จะสอบสวนเพิ่มเติม มีหลักฐานพยานเพิ่มเติมในตรงนี้ จึงจะขอกลับมา ทางปปปช. ยังไม่ส่งกลับและยังไม่มีการพิจารณา

ซึ่งทางพลตำรวจเอกสุรเชษฐ ถูก แจ้งดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเพียง ผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีแรกแล้วก็มาร้องทุกข์กล่าวโทษคดีที่ 2 ส่วนผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ข้อหา 157 /149 จะโดนการฟอกเงินทั้งหมด และถ้าส่งสำนวนกลับมาก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา และในส่วน ขั้นตอน ของ ปปช. ที่บอกว่าจะทำเอง ยังอยู่ในการพิจารณาอยู่ เพราะข้อมูลยังไม่ชัวร์

ในด้านของเกมการเมืองภายใน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การจับเว็บพนันมินนี่ โดยพบเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวข้อง พอตนไปพบข้าราชการตำรวจที่ไปเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องเงินที่ประมาณ 200-300 ล้าน ตนจึงปล่อยผ่านไม่ได้เพราะทำให้เสียชื่อเสียงตำรวจ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดยมีการขอรายการเดินบัญชีธนาคาร มีการระบุเงิน ไปจนถึงกลุ่มบุคคลที่ได้รับเงินจากบัญชีม้า เส้นทางการเงินที่ไหลจากบัญชีม้า ไหลลงไปเกือบถึงทุกคน บางคนเป็นญาติ ใช้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในชีวิตประจำวัน เงินส่วนใหญ่ใน 300 ล้าน เกินครึ่งไหลไปสู่ตัวใหญ่ โดยเงินส่วนนี้จ่ายมาจากบัญชีม้า ที่รับมาจากเว็บพนันมินนี่ และเว็บอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในหลายๆ เว็บจะรวมเป็นก้อน และไปสู่ข้างบน ยอดรวมจากบัญชีม้า 4-5 บัญชี นอกจากนี้ ไม่ว่าจะคนขับรถบัญชีม้า หรือตำรวจ ก็จะโดนคดีฟอกเงินทั้งสิ้น

เบื้องต้น ในความเห็นต่างของคดีเว็บพนันมินนี่ ทาง ป.ป.ช. หรือ ตำรวจ ว่าหน่วยงานไหนจะทำคดี ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ทางตนอยากได้คดีมาทำ อยากได้สำนวนคดี โดยถ้าหากส่งมาหนาวยงานตำรวจก็จะสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว โดยจะสรุปเรื่องนี้และจบให้ไว เพราะไม่อยากให้สำนักงานตำรวจเสื่อมเสีย ซึ่งทาง ป.ป.ช. ก็ต้องเป็นคนที่พิจารณา ถ้าหากไม่ให้ ทางเราก็ไม่สามารถบังคับอะไรได้ โดยการทำงานนั้นเป็นอิสระต่อกัน การสอบสวนคดีนี้ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะกลั่นแกล้ง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าเราไม่ทำเรื่องให้กระจ่าง เรื่องนี้ก็จะไปเดือดร้อนถึงประชาชน ตนยืนอยู่บนพยานและหลักฐาน มีเพียงศาลเท่านั้นที่เป็นคนตัดสิน หากฟ้องมาก็ไม่กลัว ตนเชื่อว่าศาลมีความยุติธรรม

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า การกำจัดตำรวจสีดำนั้นเป็นสิ่งที่ดี ถึงแม้จะเป็นร้อยเป็นพัน ยืนยันชุดสอบสวนทุกคนยังมีกำลังใจที่ดี และต้องการทำคดีนี้เพื่อเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้คุยเรื่องที่ถูกฟ้อง ทางตนไม่กลัว โดยกล่าวว่าการสอบสวนสืบสวนนั้นไม่ได้มีการบิดเบือนข้อมูลใดๆ และในเคสเตาปูน ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเคสนี้ และในส่วนของวินัยร้ายแรง จากการพิจารณาจากพยานหลักฐาน ถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรง โดยตำรวจแห่งชาติ ก็กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

และในการทำงานของตำรวจนั้นอยู่บนความเสี่ยงเสมอเพื่อความสำเร็จ ซึ่งก็จะมีการทำงานของกลุ่มคนบางคน ที่เป็นการทำงานเพื่อหวังผลเกินไป การทำงานสืบสวนคือ การแสวงหาหลักฐานไม่ใช่การตั้งตุ๊กตา เพื่อหาเหตุผลมาดำเนินคดีกับตุ๊กตา ไม่ใช่ ตอนนี้ตำรวจจึงไม่ค่อยอยากทำงาน เพราะถ้าหากเกิดความผิดพลาด ก็มีตำรวจอีกกลุ่มไปรื้อ ไปดำเนินคดีต่อ กว่าการสืบสวนจะสำเร็จ ตำรวจย่อมมีความเสี่ยงทุกคดี แต่นั่นก็คือ ผลสัมฤทธิ์ของประชาชนทุกคน ถ้าหากข้างบนยังเป็นแบบนี้ ตำรวจทั่วประเทศคงไม่อยากทำงาน เพราะกลัวพลาด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts