เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 20 ก.พ.67 พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิระศักดิ์ แอบแฝง สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี ได้เดินทางไปศาลจังหวัดพัทยา กลางดึกด้วยตัวเอง เพื่อไปส่งมอบสำนวนและพยานหลักฐาน ในการขออำนาจศาลให้ออกหมายจับ นายทิพย์ ภาศิริ อายุ 41 ปี ในฐานความผิดจำนวน 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย พยายามข่มขืน/วางเพลิง/และชิงทรัพย์ ซึ่งตกเป็นคนร้ายในคดี ลวงสาวชาวจีนลากเข้าป่าหวังข่มขืน จุดไฟเผาเพื่อฆ่าปิดปาก และทำลายหลักฐาน ภายในผืนป่าหลังสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เมื่อคืนของวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา จนกระทั่ง เวลาประมาณ 00.30 น. ในคืนเดียวกัน มีรายงานว่า ภายหลังศาลจังหวัดพัทยา ได้อนุมัติหมายจับคนร้าย ตำรวจสืบสวนภาค 2 ซึ่งเป็นชุดทำงาน ของ พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค2 ในฐานะหัวหน้าทีมชุดสืบสวนสอบสวน และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค2 ได้สืบสวนและติดตาม แกะรอยจนสามารถไปจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่เขต เทศบาลเมืองมาบตาพุด จว.ระยอง ขณะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นตำรวจจึงรีบคุมตัวคนร้ายไปยัง สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บดีเอ็นเอ ก่อนขยายผลไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟิน สีดำ ที่ใช้การก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้จอดแอบไว้บริเวณที่ปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง โดยพบว่าหมวกกันน็อคที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุยังยึดไว้กับตัวรถ เมื่อตรวจค้นภายในใต้เบาะรถพบแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 2 แผ่น ไขควง เหล็กแหลม กระเป๋า กุญแจรถ แมสสีดำ ผ้าเช็ดรถสีเขียว ยางเส้น 1 พวง และกระเป๋าสะพายลายมิกกี้เมาส์ 1 ใบ จึงให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรายนิ้วมือแฝง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ให้ครบถ้วนและรัดกุมยิ่งขึ้น หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวคนร้าย พร้อมรถจยย.ของกลาง จาก สภ.ห้วยโป่ง เดินทางมายัง สภ.หนองปรือ ทันที
โดยระหว่างที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวคนร้ายเข้าไปสอบสวนใน สภ.หนองปรือ ทีมข่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนร้าย ถึงสาเหตุการลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจ ซึ่งคนร้ายพูดเพียงว่า ผมขอโทษและเสียใจ กับการที่ได้กระทำลงไปกับสาวนักท่องเที่ยวชาวจีน และยืนยันว่าไม่ได้ลงมือข่มขืน และจุดไฟเผาอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งระหว่างพูดคุยคนร้ายมีสีหน้าแววตาที่เรียบเฉย และไม่มีอาการเครียดหรือวิตกใดๆ ก่อนจะชุดสืบสวนจะควบคุมตัวเข้าไปสอบสวน และทำบันทึกจับกุม สำหรับการไขคดีดังกล่าวได้นั้น เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดมากกว่า 50 ตัว ซึ่งช่วงเวลาหลังเกิดเหตุพบว่ามีท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ประกอบกับคนร้ายนั้นมีความชำนาญใช้เส้นทางที่มืดเปลี่ยวในการหนี จึงทำให้การสืบสวนแกะรอยเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ต่อมาในวันรุ่งขึ้นหัวหน้าทีมชุดสืบสวน จึงได้มีการประชุมวางแผน ปรับยุทธวิธีแนวทางการสืบสวนกันใหม่ โดยสั่งชุดสืบสวนเริ่มแกะรอยจากการไปไล่เช็คกล้องวงจรปิดย้อนกลับไปตามเส้นทาง ก่อนที่คนร้ายจะมารับสาวชาวจีน ที่บริเวณหน้า สวนไทย พัทยา ริมถนนสาย 331 โดยตำรวจได้ไล่เช็คกล้องวงจรปิดย้อนหลัง จนกระทั่งไปพบว่ากล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนในพื้นที่ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง สามารถจับภาพรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับมาจอด ก่อนที่ตัวคนร้ายจะปรากฎตัวเดินลงจากตัวรถ แล้วรีบเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันเหมือนกัน ก่อนจะขับรถจยย. ที่แอบจอดไว้ในปั๊มน้ำมัน แล้วขับไปรับลวงพาสาวชาวจีน ไปก่อเหตุ ภายในผืนป่าหลังสนามกอล์ฟ ชุดสืบสวนจึงกระชับพื้นที่การสืบสวน จนกระทั่งไปพบตัวคนร้าย และรถจยย.อยู่ในบ้านหลัง จึงแสดงหมายศาลเข้าจับกุมตัวทันที ซึ่งทางเหยื่อสาวชาวจีน ก็มีการยืนยันว่าคนร้ายที่ถูกจับได้นั้นเป็นคนร้ายตัวจริง นอกจากนี้ ตำรวจได้มีการตรวจสอบประวัติของคนร้าย พบว่าเคยก่อเหตุลักษณะจี้ชิงทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าของคดีจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง……