“หากวันไหนกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก ผมอยากให้จำคนขับแท็กซี่คนนี้ให้ดี ขึ้นมาบนรถผม ลืมของไว้ได้คืนหมดแน่นอน”
วันนี้ (16 มีนาคม 2567) ที่ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM91 กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.จากกรณี คุณทรงชัย ชัยเหี้ยม อายุ 51 ปี เป็นชาวจังหวัด สุรินทร์ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง 1มข-7895 กทม. เก็บทรัพย์สินผู้โดยสาร เป็นกระเป๋าสตางค์สีดำ ภายในมีเงินดอลล่าร์สหรัฐ รวม 3,310 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ คิดเป็นเงินไทยกว่า 1 แสนบาท และ เอกสารภาษาพม่า 2 ใบ คาดว่าเป็นของผู้โดยสารนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาที่รับมาจาก BTS กรุงธนบุรี มาส่งที่ ซอยเจริญนคร 65 เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา จึงประสานส่งคืนเจ้าของผ่าน สวพ.FM91
สำหรับแท็กซี่คนดี คุณทรงชัย ชัยเหี้ยม เผยความรู้สึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า ตนขับรถแท็กซี่มากว่า 30 ปี ปกติก็มักจะเก็บของแล้วส่งคืนเจ้าของอยู่เสมอ โดยทุกครั้งก็จะนึกถึงและประสานส่งคืนผ่าน สวพ.91 เสมอ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่เก็บของที่มีมูลค่ามากที่สุด วินาทีที่เห็นกระเป๋าใบนี้จากผู้โดยสารที่ขึ้นต่อจากคนต่างชาติยื่นมาให้ ตนคิดเพียงว่า ไม่ใช่ของเรา รู้สึกไม่สบายใจ เป็นห่วงเจ้าของทรัพย์สินว่าเค้าจะมีเงินใช้หรือไม่ จึงตัดสินใจไม่รอช้ารีบขับรถนำสิ่งของที่เก็บได้มาฝากไว้าที่บ้าน สวพ.91 ทันที
“เมื่อเป็นของของคนอื่น ไม่ใช่ของๆเรา ใจไม่เคยคิดอยากจะได้ คิดแค่ว่าคืนเจ้าของดีกว่า เพราะเค้าอาจจะกำลังเดือดร้อน ทรัพย์สินคือหยาดเหงื่อแรงกายที่หามา อยากฝากถึงเพื่อนร่วมอาชีพทุกคน หากเก็บของชาวต่างชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นของคนชาติไหนก็ตาม ถ้าเป็นของเขา อย่าคิดอย่าไปเอา อย่าไปโลภ หรือคิดเอามาเป็นของตน มันคือทุกขลาภ ส่วนผู้โดยสาร เมื่อใช้บริการรถแท็กซี่ก็อยากให้ดูของให้ละเอียดก่อนลงรถ และ ขอให้จดจำรายละเอียดของแท็กซี่ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะสามารถติดตามได้ง่ายขึ้น”
“อยากฝากบอกนักท่องเที่ยวท่านนี้ว่าหากวันไหน กลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก ผมอยากให้กลับมาเที่ยวในที่ที่เคยเที่ยว จำคนขับแท็กซี่คนนี้ให้ดี ขึ้นมาบนรถผม ลืมของไว้ได้คืนหมด”
ขณะที่ทางด้านเจ้าของทรัพย์สินซึ่งเป็นหญิงชาวเมียนมา ชื่อ Miss Khin aye kyaing (คุณ คิน เอย์ ไจ) เผยถึงความรู้สึกในวันนั้น เมื่อรู้ว่ากระเป๋าเงินหายไป ว่า ตนรู้สึกร้อนใจมาก เพราะเงินจำนวนดังกล่าวตั้งใจจะเอามาเพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองไทย และบางส่วนก็จะเอาไปใช้ระหว่างที่อยู่ในประเทศไทยด้วย แต่ก็มั่นใจ ว่า “อย่างไร ก็ต้องได้ของคืนอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีข้อมูลรถแท็กซี่จากกล้องวงจรปิดแล้ว ก็ยังทราบอีกว่าคนไทยเป็นคนน่ารัก ใจดี นิสัยดี อย่างไรก็ได้คืนอย่างแน่นอน เมื่อได้รับสิ่งของที่หายไปกลับคืนมาตนรู้สึกดีใจมาก อยากจะขอขอบคุณ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ”