วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
หน้าแรกคอลัมนิสต์วัชระ เพชรทองสงสัย ขรก.ไทย “ร่วมมือจีนเทา”

Related Posts

สงสัย ขรก.ไทย “ร่วมมือจีนเทา”

วัชระเซ็ง! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน หากินในไทยนานนับปี สงสัย จนท.รัฐไม่รู้ได้อย่างไร ร้อง ป.ป.ง. สอบให้จบใน 30 วัน

“…มีเครือข่ายคนจีนจำนวนมาก ที่ได้เคลื่อนไหวรวมตัวกันมาตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากคนจีนด้วยกัน ชาวญี่ปุ่นชาวรัสเซียและคนไทย ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อั้งยี่ ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดอาญาฐานฟอกเงิน นับเป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยต่าง ๆ ไม่รู้หรือรู้เห็นเป็นใจ…”

ช่วงบ่าย วันที่ 3 เมษายน 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่สำนักงาน ปปง. เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อขอให้ตรวจสอบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดย นายวัชระ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า

จากข้อเท็จจริงพบว่ามีเครือข่ายคนจีนจำนวนมาก ที่ได้เคลื่อนไหวรวมตัวกันมาตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากคนจีนด้วยกัน ชาวญี่ปุ่นชาวรัสเซียและคนไทย ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช โดยกลุ่มชาวจีนมาเช่าห้องพักที่โรงแรมจินเฮง แอบลักลอบเปิดเป็นสำนักงานและฐานบัญชาการคอยสั่งการไปยังจุดย่อยอีก 3 จุด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อ.ฉวาง โดยมีคนไทยอีกจำนวนมาก เข้ามาทำงานให้กับในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในการโทรติดต่อหาเหยื่อ โดยการชักชวนให้เข้ามาร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และเล่นพนันออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งหลอกให้ซื้อสินค้า โดยมีการสร้างเพจและใช้อุบายต่างๆหลอกให้เหยื่อโอนเงิน ในส่วนของชาวจีนที่ถูกจับกุมได้อ้างว่า บุคคลที่โดนจับนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่ดูแลส่วนต่าง ๆ ขณะที่นายทุนใหญ่ระดับสั่งการจะอยู่ในประเทศจีน โดยจะให้ชาวจีนด้วยกันเดินทางเข้าไทยโดยผ่านจากกัมพูชา บางคนก็ถือหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว พอรวมกลุ่มกันได้ก็ตั้งแก๊งหลอกเหยื่อมานานปี มีการแบ่งหน้าที่กันเป็นระบบ ให้เงินค่าตอบแทนเฉลี่ยคนละ 40,000 บาท ขณะที่คนไทยทำงานเป็นพนักงานจะได้ค่าตอบแทนเฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท นับเป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยต่าง ๆ ไม่รู้หรือรู้เห็นเป็นใจ

ตนในฐานะคนไทย อีกทั้งยังปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แทนนอกสภามาโดยตลอด เห็นว่า จากข้อเท็จจริงในรายคดีดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อั้งยี่ ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดังนั้น จึงขอให้เลขาธิการ ปปง. ได้พิจารณาดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและนำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนให้กับประชาชนที่ถูกหลอกเป็นเหยื่อ รวมทั้งให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งอาจรวมถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยราชการต่าง ๆ ที่รู้เห็นเป็นใจให้ความช่วยเหลือแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ หากพบว่ามีข้าราชการรายใดทุจริต ก็ขอให้ดำเนินการกับทรัพย์สินของข้าราชการเหล่านั้นในความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการทุจริตและความผิดอาญาฐานฟอกเงินด้วยเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ทั้งนี้ขอให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts