วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
หน้าแรกสืบเศรษฐกิจยานยนต์“เน็กซ์ พอยท์” ขึ้นแท่น พัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนรายแรกในไทย

Related Posts

“เน็กซ์ พอยท์” ขึ้นแท่น พัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนรายแรกในไทย

เมื่อเร็วๆ นี้ บมจ. เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ได้ร่วมลงนามความร่วมมือสามฝ่ายกับ บริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท เดนโซ่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าพาณิชย์พลังงานไฮโดรเจนรายแรกในประเทศไทย มุ่งเน้นการใช้งานในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายให้รถที่ผลิต สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือสูงกว่ารถสันดาป สามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง และลดการปล่อยมลภาวะ โดยมีเป้าหมายเร่งผลิตต้นแบบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนให้แล้วเสร็จในไตรมาส4 ปีนี้

@suebjarkkhao

“เน็กซ์ พอยท์” ขึ้นแท่น

♬ เสียงต้นฉบับ – Suebjarkkhao – Suebjarkkhao

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เน็กซ์ พอยท์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง NEX กับพันธมิตร เป็นการพัฒนาที่ก้าวไปอีกขั้น จากการผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า 100 % มาเป็นพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตอบสนองความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของรัฐบาล ที่พยายามผลักดันและสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ทั้งรถบัสโดยสารไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำมาหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า ในกรณีที่ซื้อรถที่ผลิตหรือประกอบในประเทศ รวมทั้งผลักดันให้หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ เปลี่ยนมาใช้รถ EV เพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และฝุ่น PM 2.5 คาดว่าจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ พลังงานไฮโดรเจน ได้สำเร็จในไตรมาส 4 ปี 2567 นี้แน่นอน

ปัจจุบันโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ของ NEX มีกำลังการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละประมาณ 9,000 คัน ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังมีขีดความสามารถในการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และมองว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าของเน็กซ์ พอยท์ ซึ่งมีทั้งรถบัสไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า รถตู้ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถหัวลากไฟฟ้า การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและศักยภาพของบริษัทในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะดันเป้าหมายของ NEX ให้เติบโตแข็งแกร่ง มีผลประกอบการแตะ 20,000 ล้านบาท ในสิ้นปี 67 ตามที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts