เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 27 มี.ค. 65 ที่ พุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ถนนสายเก้ากิโล อำเภอศรีราชา คณะร่างทรง ได้ประกอบพิธีเปิดอ่างน้ำมนต์สำหรับใช้ในช่วงงานมหากุศล เก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้า ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา โดยมีอาสาสมัครจากมูลนิธิต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงบรรดาสาธุชนผู้ใจบุญจากทั่วสารทิศมาเข้าร่วมพิธีหลังจากนั้นก็จะเป็นการเจิมรถทุกคันที่เข้าร่วมขบวนแห่ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางเข้าไปที่สุสานเพียวเยี้ยงซัวจึง บ้านเนินโมก อ.บ้านบึง จากนั้น คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ เหล่าอาสาสมัคร และสาธุชนผู้ใจบุญ จำนวนมาก ได้ร่วมกันขึ้นรถเข้าขบวนแห่ งานมหากุศลเก็บศพไร้ญาติ ครั้งที่ 3 จาก พุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ไปยังสุสานจึเพียวเยี้ยงซัวจึง บ้านเนินโมก อ.บ้านบึง เพื่อร่วมกันประกอบพิธี เปิดหลุมศพไร้ญาติ เป็นปฐมฤกษ์การเก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้า ครั้งที่ 3 อย่างเป็นทางการ โดยมีนายเจริญ จุรีกานนท์ นายกพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ในฐานะประธานจัดงานเก็บศพไร้ญาติ (ล้างป่าช้า) ครั้งที่ 3 นายชัยจิตร รัฐขจร ประธานมูลนิธิสหพุทธธรรมสงเคราะห์ “พ้งเลี้ยง” แห่งประเทศไทย นายเอกสิทธิ์ อ่ำฉอ้อน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีเขตอำเภอศรีราชา นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัดชลบรี มูลนิธิ องค์กรกุศลต่างๆ เข้าร่วมกันประกอบพิธี เปิดหลุมศพไร้ญาติ ในครั้งนี้อีกด้วย สำหรับพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2543 นั้น ได้ดำเนินการส่งเสริมสามัคคีธรรมการบำเพ็ญกุศลในพุทธศาสนา และช่วยเหลือสาธารณกุศลต่างๆ ได้เล็งเห็นว่า ในปัจจุบันมีจำนวนศพไร้ญาติที่นำมาฝังกลบไว้ที่สุสานเพียวเยี้ยงซัวจึง บ้านเนินโมก อำเภอบ้านบึง ได้เต็มพื้นที่แล้ว อีกทั้งตามพื้นที่วัดต่างๆ ในเขตอำเภอศรีราชาก็มีศพที่มีญาติไปฝากเก็บไว้แล้วปล่อยปละละเลย ไม่ได้ติดต่อกับทางวัดเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งสร้างภาระให้แก่ทางวัดในพื้นที่อำเภอศรีราชา ทางคณะกรรมการริหารพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา จึงได้จัดงานมหากุศล “เก็บศพไร้ญาติ ล้างป่าช้าครั้งที่3 ขึ้น
ซึ่งในแต่ละมูลนิธิจะมีสุสานของตนไว้สำหรับฝังศพไร้ญาติ เพราะเราไม่รู้ว่า ในอนาคตจะมีญาติมาติดตามรับศพหรือไม่ จึงได้ฝังศพเหล่านี้ไว้ก่อน แต่เมื่อหลุมศพเกิดเต็มขึ้นมา จึงมีพิธีการที่เรียกว่า ล้างป่าช้า เพื่อขุดศพ เหล่านั้นขึ้นมา เก็บแต่กระดูก เพื่อทำความสะอาด เซ่นไหว้ข้าวปลาอาหาร และจัดฌาปนกิจต่อไป ซึ่งเป็นกรณีของศพที่ถูกฝังใหม่ๆ จะทำการแล่เนื้อออก ให้เหลือแต่กระดูก ส่วนกระดูกชิ้นเล็กๆเช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า ที่ยากต่อการแล่ ก็จะถูกนำไปต้มเพื่อให้แล่เนื้อออกมาได้ง่าย เนื้อทั้งหมดจะถูกนำไปฝังทิ้งหรือเผา ส่วนกระดูกจะเก็บไว้ทำความสะอาด และนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
สำหรับขั้นตอนการทำพิธีล้างป่าช้านั้น มีดังนี้ 1. ขุดค้นหาศพ โดยเมื่อขุดพบผ้าขาวห่อศพผู้ร่วมพิธีทุกคนจะยกมือไหว้ขอขมา 2. ช่วยกันอุ้มผ้าห่อศพขึ้นมาจากหลุมด้วยความระมัดระวัง ห้ามไม่ให้ชิ้นอวัยวะหล่นออกจากผ้าห่อศพ 3. นำชิ้นส่วนมาคัดแยกเศษดินออก และนำกระดูกมาวางเรียงตามรูปร่างเดิม 4. นำชิ้นส่วนกระดูกมาชำระล้างด้วยน้ำเปล่า พร้อมทำความสะอาดด้วยแปรง หากกระดูกมีสิ่งสกปรกมากต้องเปลี่ยนน้ำล้างทำความสะอาดเรื่อยๆ จนกว่าจะสะอาด 5. นำกระดูกที่ได้ทำความสะอาดแล้วไปเก็บไว้ที่มูลนิธิ 6. ช่วงกลางคืนจะมีการนิมนต์พระมาสวดพระอภิธรรมมาติกาบังสุกุล พร้อมเวียนธูปเสริมสิริมงคลและอุทิศส่วนกุศล ซึ่งการล้างป่าช้าเชื่อกันว่า เป็นการทำบุญทำกุศลยิ่งใหญ่เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณไปสู่สุคติ ผู้ร่วมพิธีต้องเป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ บางคนถือศีลกินเจก่อน 3-7 วัน เพื่อให้ร่างกายสะอาด และปกป้องสิ่งที่มองไม่เห็น.ทางพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ได้จัดงานมหากุศล เก็บศพไร้ญาติ ล้างป่าช้าขึ้น เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไร้ญาติที่ฝังอยู่ใต้ดินมาประกอบพิธีทางศาสนา ส่งให้ดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ
