จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก
โดย กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สืบสวนพบ ผู้กระทำผิดขายคลิปโป้ สื่ออนาจารลามกเด็ก ให้แก่ประชนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก เยาวชน และสังคมไทย
วันที่ 29 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 07.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.,ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา 114 ประกอบด้วย ร.ต.อ.เอกชัย เติมพงษ์ รอง สว.สส.สภ.ดำเนินสะดวก, ร.ต.อ.ฤชุวัจน์ ยินดี รอง สว.กก.4 บก.ปคบ., ร.ต.อ.สหรัฐ เติมต่อวัฒนกุล ร่วมกันจับกุมตัว
นายอณิกวิชญ์ ปะวะโข อายุ ๔๐ ปี ที่อยู่ 330/4 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 4 รายการ ดังนี้
- คอมพิวเตอร์ DESKTOP-O6CI6KJ ซีพียู AMD Ryzen 9 3900X 12-Core Processor 3.80 GHz
- โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อออปโป้ รุ่น A12 หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 0810362632 IMEI 1 864036046640636 , IMEI 2 864036046640628
- โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่น ไอโฟน 11 โปรแม็กซ์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 0838969564 IMEI 353911102188530 เครือข่าย ทรู
- สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 777-2-18041-6 ชื่อบัญชี นายอณิกวิชญ์ ปะวะโข สาขาเอสพละนาด รัชดาภิเษก (ใช้ในการโอนเงินค่าเข้าร่วมกลุ่ม)
5.ยาเสพติดให้โทษประเภท๑ (ไอซ์) ชนิดเป็นผลึกใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดรูดเปิด-กดปิด จำนวน ๑๒ ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุง จำนวน 8.04 กรัม
6.ยาเสพติดให้โทษประเภท๑ (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดรูดเปิด-กดปิด จำนวน 2 เม็ด
7.ยาเสพติดให้โทษประเภท๑ (ยาอี) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดรูดเปิด-กดปิด จำนวน ๔ ถุง รวมมียาอี จำนวน ๖.๕ เม็ด
กระทำความผิดฐาน
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
1.นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและ ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
2. เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มี
ลักษณะอันลามก ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕0 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา 287 ผู้ใด
(๑) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก
(๒) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น
(๓) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใดต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/1
ครอบครองสื่อลามกอนาจารเพื่อแสวงหาประโยนช์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
ประมวลกฎหมายยาเสพติด
มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) , (ยาบ้า) และ (ยาอี) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) , (ยาบ้า) และ (ยาอี) โดยผิดกฎหมาย พฤติการณ์แห่งการจับกุม เมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 เวลาประมาณ 17.30 น. สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บช.น.ได้ทำการสืบสวนกรณี การโฆษณา/ประกาศขายสื่อ ลามกอนาจาร/นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ได้พบว่ามีการโพสต์สื่อลามกพร้อมทั้งประกาศขายสื่อลามกอนาจารผ่านแพลตฟอร์ม VK https://vk.com/club212843922 ซึ่งใช้บัญชี VK ชื่อว่า “ไทยนะคะ” มีผู้ติดตาม 25,100 คน มีข้อความโฆษณาดังนี้ “ดูคลิปเต็มในกลุ่มน์ แอดไลน์มา ID : nickytime123 300 บาท ดูได้ทุกคลิป อัพเดทเรื่อยๆ คลิปเยอะมาก 700+” คลิปในกลุ่ม เป็นกรณีการโฆษณา/ประกาศขายสื่อลามกอนาจาร/นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้ทำการสืบสวนดำเนินการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ให้สายลับทำการแฝงตัวสืบสวนและได้เพิ่มเพื่อนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ไอดี “nickytime123” พบว่าเป็นผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ส่งข้อความเพื่อสอบถามรายละเอียดในการเข้ากลุ่มไลน์ที่มีสื่อลามก อนาจาร ต่อมาผู้ใช้บัญชีไลน์ “ชนะชนะ” แจ้งว่า “สนใจเข้ากลุ่มดูคลิป 300 บาท (ตลอดชีพ) บัญชี 777-2180-416 กสิกรตรวจสอบพบว่าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 777-2180-416 พบว่าชื่อบัญชีคือ นายอณิกวิชญ์ ปะวะโข สายลับจึงได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชีดังกล่าว จำนวน ๓๐๐ บาท เพื่อทำการเข้ากลุ่มคลิป และได้ส่งสลิปการโอนเงินให้ผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” เพื่อยืนยันหลักฐานการโอนเงิน ภายหลังผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” จึงได้เชิญสายลับเข้ากลุ่มไลน์ชื่อว่า “ชนะ” ปรากฏสมาชิกในกลุ่มจำนวน 461 บัญชี และ ผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” แจ้งว่าคลิปอยู่ในโน้ตของกลุ่มต่อมาสายลับจึงได้ทำการตรวจสอบโน้ต (Notes) ของกลุ่มไลน์ชื่อว่า “ชนะ” พบว่ามีคลิปสื่อลามกอนาจารของผู้หญิงกับผู้ชาย สัญชาติไทยและสัญชาติอื่น จำนวนมาก อีกทั้งยังปรากฏภาพและคลิปสื่อลามกอนาจารของเด็กหญิงอีกด้วย
จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่าผู้ที่ดำเนินการในการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารดังหกล่าวคือ นายอณิกวิชญ์ ปะวะโข ซึ่งพักอาศัยอยู่ ชีวาทัย ราชปรารภ คอนโด ห้อง 11/243 ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานครจึงทำการขอหมายค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐาน เอาผิดนายอณิกวิชญ์ ปะวะโข
จนวันที่ 29 เม.ย.67 เวลา 07.00 น.
เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา ได้ขออนุมัติหมายค้น ศาลอาญาที่ 404 /2567 เข้าค้นคอนโด ตามที่อยู่ดังกล่าว ซึ่งได้พยานหลักฐานดังกล่าวข้างต้นมาดำเนินคดีกับนายอณิกวิชญ์ ปะวะโข จึงได้จับกุม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งให้การเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้ขายสื่อลามกอนาจารดังกล่าว เนื่องจากตนเองได้ตกงานช่วงสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ ไม่มีอาชีพ จึงได้หาช่องทางในการหาเงิน และเห็นช่องทางในการผู้ขายสื่อลามกอนาจารผ่านสื่อโซเชี่ยลและได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง จึงได้ใช้เป็นวิธีในการหาเงินแทนงานประจำที่ได้ตกงานไป โดยรายได้ที่ได้รับจะนำมาจ่ายค่าตอนโด ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยาเสพติดมาเสพ
โดยจากการเข้าทำการตรวจค้นจับกุมตามอำนาจของหมาค้นศาลอาญา พบว่ามีคลิปวีดีโอที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารจำนวนมากกว่า 100,000 คลิป ที่เก็บไว้ใน CPU 1 เครื่อง , เอ็กทอลน่อลอีกฮาร์ดดิสจำนวน 3 ลูก (ลูกละ 8 เทราไบต์) และ เอ็กทอลน่อลอีกจำนวน 4 อัน
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป