“….บนพื้นฐานความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดีถ้วนหน้านั้น ระบอบประชาธิปไตยที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง คือหลักประกันพื้นฐานทางด้านระบบระบอบที่สังคมจะสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืนรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับประเทศที่หากการขับเคลื่อนตัวเองผิดไปจากฐานใหญ่ทางประวัติศาสตร์นี้แล้ว ก็จะติดขัด ไม่อาจสลัดหลุดจากปมปัญหาที่รัดรึงตรึงติด ติดหล่มประวัติศาสตร์ชนิดไม่อาจแก้ไขได้ ประเทศจีนได้พัฒนาไปได้รวดเร็วยิ่งกว่ายุคใดๆ เพราะถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เรียกว่า “ประชาธิปไตยประชาชนตลอดกระบวนการ” สำหรับประเทศไทย ก็ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดหมายปลายทางร่วมกัน นั่นคือ”ประชาธิปไตยประชาชน” นั่นคือเกิดการเมืองที่ทุกฝ่ายเข้าร่วม โดยถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เกิดสภาประชาชนและรัฐบาลประชาชน ที่หลุดพ้นจากการต่อสู้ขับเคี่ยวกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์และชนชั้นสูงต่ำอย่างสิ้นเชิง เนื่องเพราะทั้งโลกเขาก็กำลังพากันทำเช่นนี้แล้ว…”
ประชาธิปไตยประชาชนอย่างสิ้นเชิง
完全人民民主
มนุษยชาติพัฒนาตัวเองมาตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ซึ่งเมื่อเราขีดวงคำจำกัดความลงไปก็คือ”ประวัติศาสตร์”นั่นเอง
ก่อนหน้าการเกิดขึ้นของมนุษย์ ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องของสรรพสิ่งที่เปลี่ยนไปตามภาวะของการมาถึงแล้วก็ผ่านไป ตามกระบวนการเกิดดับของธรรมชาติ แต่เมื่อภายหลังเกิดมนุษย์ขึ้นมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เนื่องจากมนุษย์เข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ด้วย ทั้งนี้มีเงื่อนไขเบื้องต้นว่า การเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ใดๆ จะต้องดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่แน่นอน หากมิใช่เป็นไปตามเจตนารมณ์เฉพาะตนของคนเรา
เช่นการเปลี่ยนแปลงของสังคมมนุษย์ จะทำได้เร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับว่า คนเราเข้าถึงกฏเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงของสังคมมากน้อยแค่ไหน ในสมัยโบราณการเปลี่ยนแปลงสังคมดำเนินไปตามยถากรรม ทำให้ไม่อาจดำเนินต่อเนื่อง ยาวนานอย่างเป็นระบบ ขาดวิ่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่นอารยธรรมโบราณส่วนใหญ่จะสูญหายไปจนหมดสิ้น
จนกระทั่งเร็วๆนี้ จึงได้จับกฏเกณฑ์การพัฒนาสังคมได้ถูกต้องว่าจะต้องมุ่งสร้างความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจโดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวนำ แล้วการพัฒนาทางด้านการเมือง ศิลปะวัฒนธรรมจึงจะดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน
การค้นพบแนวทางการสร้างประวัติศาสตร์ที่ยั่งยืน สามารถสานต่ออารยธรรมไปสู่อนาคตยาวไกลได้อย่างแท้จริงกำลังปรากฏชัดเจนเป็นที่รับรู้และเข้าใจของชาวโลกจำนวณมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพื้นฐานก็คือ ทางด้านเศรษฐกิจ อันเป็นความเจริญทางวัตถุ จะต้องยืนอยู่ในฐานะปัจจัยกำหนดพื้นฐานที่สุดของการขับเคลื่อนประวัติศาสตร์ โดยทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การนำของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ส่วนทางด้านอื่นๆทั้งทางสังคม วัฒนธรรม ฯลฯ อันเป็นความเจริญทางด้านจิตใจ ก็จะต้องถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการเมืองการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยประชาชนก็คือหัวใจ
สรุปคือบนพื้นฐานความเจริญรุ่งเรืองทางด้านวัตถุ ประชาชนอยู่ดีกินดีถ้วนหน้านั้น ระบอบประชาธิปไตยที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง คือหลักประกันพื้นฐานทางด้านระบบระบอบที่สังคมจะสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน
นี่คือสิ่งที่ประวัติศาสตร์ได้กำหนดชัดแล้ว จึงปรากฏว่าประเทศใด ไม่ว่าจะใช้ชื่อการปกครองด้วยระบอบอะไร หากดำเนินไปบนฐานใหญ่สองฐานนี้แล้ว ก็จะพัฒนาก้าวไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับประเทศที่ไม่ว่าจะอ้างเอ่ยถึงความเป็นระบบระบอบอะไร แต่หากการขับเคลื่อนตัวเองผิดไปจากฐานใหญ่ทางประวัติศาสตร์นี้แล้ว ก็จะติดขัด ไม่อาจสลัดหลุดจากปมปัญหาที่รัดรึงตรึงติด ติดหล่มประวัติศาสตร์ชนิดไม่อาจแก้ไขได้
ปัจจุบันนี้ ประเทศจีน ได้ตั้งตัวติดแล้ว ทางด้านเศรษฐกิจจึงพัฒนาไปได้รวดเร็วยิ่งกว่ายุคใดๆ ทางด้านการเมืองก็ได้ดำเนินระบอบประชาธิปไตยที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เรียกว่า “ประชาธิปไตยประชาชนตลอดกระบวนการ”(全过程人民民主)
สำหรับประเทศไทย ขอให้ทุกฝ่ายรับรู้ตรงกันใน”คำตอบ”ของประวัติศาสตร์นี้ ร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดหมายปลายทางร่วมกัน นั่นคือ”ประชาธิปไตยประชาชน” ส่วนจะเรียกกันว่าเป็นประชาธิปไตยประชาชนแบบไหน ก็ขึ้นกับว่า บนฐานของผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศนั้น กลุ่มชนผู้ตื่นรู้ยินดีที่จะใช้ชื่ออะไรที่เหมาะสมกับประเทศไทยยุคใหม่มากที่สุด
ในห้วงที่ประเทศไทยได้ก้าวมาถึงจุดเริ่มต้นเดียวกันกับทั้งโลกแล้วนี้ ขอให้ทุกฝ่ายยืนให้มั่น ผลักดันการเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลจริง นั่นคือเกิดการเมืองที่ทุกฝ่ายเข้าร่วมโดยถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เกิดสภาประชาชนและรัฐบาลประชาชน ที่หลุดพ้นจากการต่อสู้ขับเคี่ยวกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์และชนชั้นสูงต่ำอย่างสิ้นเชิง
เนื่องเพราะทั้งโลกเขาก็กำลังพากันทำเช่นนี้แล้ว
ไขคำจีน
完全 หวันเฉวียน หมดสิ้น อย่างสิ้นเชิง