วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ, พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รองผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคบ.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ(Ufun) ข้อหา ““ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำโดย พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ. สืบทราบว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับคำสั่งให้ออกสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า ได้สืบทราบว่าน.ส.จีราพัชร์ วิชัยธนพงศ์ อายุ 45 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความผิดฐาน “ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”จะมาปรากฎตัวที่ร้านแม่คำเบา(สถานที่จับกุม) ต่อมาวานนี้ (6 พ.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบ บุคคลที่มี ลักษณะหน้าตาคล้ายบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น อยู่บริเวณหน้าร้านแม่คำเบา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวและแสดงบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ได้สอบถามชื่อ-นามสกุล ทั้งได้แสดงรูปภาพและแสดงหมายจับให้ น.ส.จีราพัชร์ วิชัยธนพงศ์(ผู้ถูกจับทราบชื่อภายหลัง)ดู พร้อมอ่านหมายจับให้ผู้ถูกจับฟัง รวมทั้งให้ผู้ถูกจับอ่านด้วยตัวเองแล้ว ผู้ถูกจับรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับชื่อ-นามสกุล และตามรูปภาพดังกล่าวจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับฉบับนี้มาก่อน
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๓ “ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”แสดงตนเป็นคนอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 140,000 บาท (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคสอง)
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ฝากเตือนภัย ในช่วงเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเนื่องจากสถานการณ์ภัยจากโรคโควิท ทำให้ประชาชน มีเงินไม่เพียงพอหรือต้องการหารายได้ตามโซเซียล ก็ขอให้ระมัดระวังจากการลงทุนทำธุระกิจ กรณีเคสนี้ก็เป็นหมายจับ(Ufun) ที่ประชาชนโดนหลอกลงทุนหลายคน มีความเสียหาย 100 กว่าล้าน
หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค
