“วัชระ” ยื่น ปปช.สอบทุจริต-จริยธรรมผู้ว่า-สก.พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ ”ชัชชาติ” ลาออก เซ่นทุจริตเครื่องออกกำลังกาย ยกภาษิต ”คบเด็กสร้างบ้าน คบหัวล้านสร้างเมือง” เสนอ ”มท.1” สอบทุกโครงการ
10 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และประธาน/กรรมการ ป.ป.ช.ทุกคนผ่านงานสารบรรณ ป.ป.ช. ในหนังสือร้องเรียนระบุว่าได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนให้ยื่นหนังสือกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องออกกำลังกายของกรุงเทพมหานคร จำนวน ๙ โครงการ วงเงินงบประมาณ ๗๗,๗๓๐,๐๐๐ บาท ดังนี้
๑. ซื้อวัสดุอุปกรณ์ค่าใช้จ่ายในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ตามค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วงเงินงบประมาณ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖
๒. จ้างเหมาซ่อมแซมห้องเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ศูนย์กีฬามิตรไมตรี วงเงินงบประมาณ ๔๕๕,๒๕๐.๗๖ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
๓. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ๑๑ รายการ (ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์) วงเงินงบประมาณ ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖
๔. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ๑๑ รายการ (ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ) วงเงินงบประมาณ ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖
๕. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ๑๐ รายการ (ศูนย์กีฬามิตรไมตรี) วงเงินงบประมาณ ๑๐,๖๗๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๑ มีนาคม ๒๕๖๗
๖. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ๑๖ รายการ (สำหรับศูนย์นันทนาการวัด) วงเงินงบประมาณ ๑๑,๕๒๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗
๗. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ๒๑ รายการ (ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๗๒) วงเงินงบประมาณ ๑๑,๘๒๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๑ มีนาคม ๒๕๖๗
๘. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ๒๑ รายการ (ศูนย์กีฬาอ่อนนุช) วงเงินงบประมาณ ๑๕,๓๗๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๑ มีนาคม ๒๕๖๗
๙. ซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการ สังกัดส่วนนันทนาการวงเงินงบประมาณ ๑๗,๙๐๐,๐๐๐ บาท วันที่ลงนามในสัญญา ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๗
รวมทั้งการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของ กรุงเทพมหานคร กับ บริษัท วาล็อค สปอร์ต อีควิปเม้นท์ จำกัด ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๗ ทุกโครงการเนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีราคาสูงหรือแพงกว่าราคาท้องตลาด และบริษัทคู่สัญญาไม่เคยมีการซื้อขายกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนอื่นใด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีพนักงาน ไม่มีสต็อกสินค้าแต่ชนะงานจริงหรือไม่
ทั้งนี้ขอกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ที่กำกับดูแล) ประธานสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกลทุกเขตที่ลงมติเห็นชอบคำแปรญัตตินี้ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตพญาไทในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณางบประมาณประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ (มีที่มาจากงบแปรญัตติของผู้บริหาร) ข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครและบริษัทเอกชนกับพวก ส่อว่าปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตหรือไม่ และฝ่าฝืนระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมทั้งจริยธรรมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชและข้าราชการตามกฎหมายจริยธรรมที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และผิด พรบ.ฮั้วหรือไม่
ทั้งนี้นายวัชระได้ขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการกันข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย พร้อมกล่าวว่า หากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ทราบตนและพี่น้องประชาชนทราบภายใน ๑๕ วันด้วย
นายวัชระ กล่าวว่า “ขอเรียกร้องให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจริยธรรมและสปิริตสูง ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะไม่สามารถควบคุมดูแลเงินภาษีอากรของพี่น้องประชาชนได้ และเงินที่ทุจริตนี้เป็นงบแปรญัตติของผู้บริหารซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของคณะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เหตุการณ์นี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ผมขอเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตรวจสอบดูแลทุกโครงการของกรุงเทพมหานคร เมื่อเกิดเรื่องนี้ทำให้นึกถึงภาษิตโบราณที่ว่า คบเด็กสร้างบ้าน คบหัวล้านสร้างเมือง”