พลตำตรวจตรีวิวัฒน์ ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการ ปคบ. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ ITCHA (อิชช่า) ว่า ทางพนักงานสอบสวน ปคบ. ได้แยกเป็น 2 คดี คดีแรกฐานความผิดข้อหาโฆษณาเกินจริง ไม่ได้รับอนุญาตโฆษณา ตามมาตรา 40 และ 41 พ.ร.บ.อาหารและยา พ.ศ.2522 หลังมีการกล่าวอ้างว่าหากรับประทานอาหารเสริมดังกล่าวจะทำให้น้ำหนักลดลงได้ 14 กิโลกรัม ซึ่งมีหมายเรียกให้ “เบนซ์ พรชิตา” และ “มิค บรมวุฒิ” เข้ามาพบในวันที่ 17 มิ.ย. ที่ บก.ปคบ.
และคดีที่ 2 ตรวจพบสารไซบูรทรามีนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอิชช่า อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และรอผลตัวอย่างที่เก็บจากโรงงานส่งตรวจสอบด้วย ส่วนที่การพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของจริงหรือของปลอม ก็ให้ความเป็นธรรมให้สิทธิ์ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงพิสูจน์ทราบ
ด้าน ภท.วีะชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อิชช่า เอ็กซ์เอส ที่ อย. สั่งซื้อและตรวจพบสารไซบูทรามีน บนฉลากมีระบุ เลขวัด วันที่ผลิตเดือนมกราคม วันหมดอายุ โดยมี บริษัท คาร์บีบ๊อค แลบบอราทอรี่ส์ จำกัด เป็นผู้ผลิต /บริษัท ไบโอ จีโนมิคส์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย /บริษัทเจพี คอสเมติกส์ 888 จำกัด ผู้ดูแลเพจ ซึ่งอย.ก็ได้สั่งซื้อจากเพจของบริษัทเจพี ฯ
ส่วนที่มีการแถลงว่า อย.ได้ซื้อจากเพจปลอมนั้นก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน พร้อมตั้งข้อสังเกตความเป็นไปได้จำนวนคนติดตามเพจปลอมเป็นแสนคน แต่เพจจริงมีเพียงหลักพันเท่านั้นและมีการซื้อขายผ่านเพจนี้เป็นหลัก
ซึ่งทาง อย.ได้ร่วมกับตำรวจ ปคบ. เข้าเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ส่งตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผลิตวันที่ 20 พฤษภาคม คาดผลวิเคราะห์จะออกเร็วๆ นี้
ส่วนที่อ้างว่าผลิตภัณฑ์ที่อย.เก็บไปตรวจสอบแล้วเจอไซบูทรามีนเป็นคนละลอตนัมเบอร์กับของจริงนั้น ก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันพิสูจน์ว่า ล็อตนั้นมีการผลิตกี่กล่อง จำหน่ายให้ใครมายืนยัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้บริโภคมาร้องเรียน แต่เป็นหน้าที่ของอย.ที่ต้องเฝ้าระวัง ///