2 เมษายน 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดี รถไฟขนส่งทุเรียน-มะพร้าวเที่ยวปฐมฤกษ์ถึงจีนแล้ว เตรียมผลักดันเพิ่มการส่งออกสินค้าทางการเกษตรไทย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล วางแผนปฏิบัติการดำเนินงานให้รถไฟนำร่องส่งออกสินค้าทางการเกษตร อาทิ ทุเรียนและมะพร้าวได้ขนส่งไปยังประเทศจีน ผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ลาวประสบความสำเร็จด้วยดี ให้ทันช่วงเวลาในฤดูกาลที่ผลไม้เมืองร้อนเริ่มทยอยออกผลผลิต
ความสำเร็จจากรถไฟขนส่งทุเรียน-มะพร้าวเที่ยวปฐมฤกษ์ที่เดินทางถึงจีน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.65 ถือเป็นก้าวสำคัญในการขนส่งสินค้าระบบรางทางเลือกใหม่ของไทยที่สามารถย่นระยะเวลาการเดินทาง ลดการสัมผัสเชื้อโรค ลดต้นทุนในการขนส่ง เพิ่มโอกาสและมูลค่าผลผลิตให้เกษตรกรในการขยายตลาดผู้บริโภค
สถิติของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศพบว่า สินค้าประเภทผลไม้ของไทยครองส่วนแบ่งทางการตลาดในจีนสูงเป็นอันดับ 1 โดยมูลค่าการส่งออก 2 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในปี 63 ที่มูลค่าการส่งออกกว่า 1.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1.6 แสนล้านบาทในปี 64 ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นถึงศักยภาพของผลไม้ไทย อาทิ ทุเรียน มังคุด มะพร้าว ส้มโอ หรือมะม่วง ที่ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนอย่างต่อเนื่อง จึงเร่งหาแนวทางเพิ่มเติมในการผลักดันสินค้าทางการเกษตรไทยออกสู่ตลาดจีนในช่วงฤดูกาลผลผลิตนี้
โดยไทยประสบความสำเร็จในการขนส่งทุเรียนและมะพร้าวด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาวเที่ยวแรกจำนวน 3 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเดินทางออกจากสถานีต้นทางมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ไปยังสถานีหนองคาย ก่อนส่งต่อไปยังสถานีท่านาแล้ง สปป.ลาว และถึงปลายทางด่านโมฮาน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.65 และผ่านมาตรการตรวจสอบสินค้าตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid) ของรัฐบาลจีนอย่างเคร่งครัด
การขนส่งสินค้าระบบรางผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ลาวครั้งนี้ใช้เวลาเดินทางเพียง 4-5 วัน ถือเป็นเส้นทางใหม่ที่เหมาะแก่การระบายสินค้าจากไทยได้รวดเร็วกว่าในเส้นทางอื่นที่ยังติดขัดในเรื่องระยะทาง และมาตรการการตรวจสอบสินค้าที่ใช้เวลา ส่งผลให้การขนส่งล่าช้า ซึ่งอาจทำให้ผลไม้เน่าเสียกลางทางได้
นายกฯ เชื่อมั่นว่าการเริ่มต้นใช้ระบบรางเพื่อการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยถึงประเทศจีนเกือบเต็มรูปแบบนี้ จะสามารถสนับสนุนการส่งออกสินค้าทางการเกษตรของไทยให้ดียิ่งขึ้น โดยกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาความพร้อมด้านต่างๆ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ รองรับการขยายตัวด้านการส่งออกสินค้าของไทยในอนาคต