วันที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 16.00 น. จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ ด่านศุลกากรจันทบุรี แถลงข่าวการ จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจำนวน 3,758 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
ตามนโยบายของนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ให้
เข้มงวดในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อปกป้องประชาชนและเยาวชนที่อาจได้รับสารพิษจากบุรี่ไฟฟ้า ในการนี้นายศศิน ปงรังษี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 พลเรือตรี อุทาน คล้ายภูผึ้ง รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัด.จบ.
(ฝ่ายทหาร) นายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ นายด่านศุลกากรจันทบุรี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี และ พ.ต.อ.พรชัย แช่มช้อย ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 ได้ร่วมกันวางแผนตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย จำนวน 2 แห่งในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเชื่อว่า ภายในมีการลักลอบเก็บและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก
โดยผลการตรวจค้นพบบุรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3,758 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์เรือง “กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวัน 12 ธันวาคม 2557” และเป็นสินค้าความผิดมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษ
จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมคำอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรีกล่าวว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามีการ นิยมในกลุ่มเยาวชนจำนวนมากตั้งแต่ชั้นประถม มัธยม จนถึง มหาลัยวิทยาลัย ซึ่งล่าสุดมีการพัฒนารูปแบบคล้ายขนม เพื่อดึงดูดกลุ่มเยาวชน ซึ่งหากเยาวชนพบเห็นแล้ว อาจหลงเชื่อและเห็นผิดเป็นควร ซึ่งส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง เป็นอันตรายต่อเยาวชน ที่ได้รับสารพิษจากบุรี่ไฟฟ้า จึงฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองของทุกบ้าน ให้เข้มงวดกวดขันในกระเป๋านักเรียน หรือกลิ่นที่ติดตามร่างกาย เพื่อเป็นหูเป็นตาช่วยกันต้องตามให้กลุ่มเยาวชนไปซื้อมาลองเด็ดขาด