วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกการเมือง"พรเพชร” จ่องานงอกเหตุยื้อฟัน "หมอไห่"

Related Posts

“พรเพชร” จ่องานงอกเหตุยื้อฟัน “หมอไห่”

“… อย่างไรก็ตามจากการติดตามเรื่องกลับพบว่า ประธานวุฒิสภา ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ต่อเรื่องนี้ จนกระทั่งวุฒิสภาชิกหมดวาระลง การซื้อเวลา ดำเนินการดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 หรือไม่  ในทางกฎหมายย่อมไม่อาจจะพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากเป็นการประวิงเวลาเพื่อให้ประธาน กสทช.ยังคงทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสิ้นสุดวาระ  ถือเป็นการดำเนินการที่ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือ เลี่ยงการทำหน้าที่ของตน ซึ่งประธานวุฒิไม่อาจยกข้ออ้างที่ว่า สว.ชุดนี้กำลังจะหมดวาระได้ เพราะตามมาตรา 20 ของ พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ กำหนดให้เมื่อกรรมการ กสทช. ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 7 หรือ กระทำการฝ่าฝืนตาม มาตรา 8 ให้ดำเนินการส่งไปยังนายกฯ เพื่อทูลเกล้าให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง โดยไม่จำเป็นต้องขอมติของที่ประชุมวุฒิสภาแต่อย่างใด ด้าน นายพรเพชร กล่าวว่า ผมไม่ได้ระงับรายงานการตรวจสอบของ กมธ.ไอซีทีต่อกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติประธาน กสทช.อะไรทั้งสิ้น จะระงับได้อย่างไร  แต่ครั้งนี้เขาคงคิดว่าไม่ได้ดั่งใจเขา และคงคิดว่าประธานวุฒิสภาคงเป็นซุปเปอร์แมนที่สามารถทำอะไรก็ได้  อย่างไรก็ตาม สว.ชุดใหม่มีอิสระ หากเขาจะหยิบยกเอาเรื่องนี้ไปดูแล้วไม่เห็นชอบก็ทำได้ หรือจะเดินหน้าต่อก็ได้…”

“พรเพชร” จ่องานงอกเหตุยื้อฟัน “หมอไห่”

อดีตรองเลขากสทช.ชี้จงใจดองผลสรุปกมธ.

เสี่ยงละเว้น ม.157- เจ้าตัวโบ้ยโยนวุฒิสภาชุดใหม่

อดีตรองเลขาฯ กสทช. ชี้อดีตประธานวุฒิสภา “พรเพชร” ส่องานงอกหลังยื้อผลตรวจสอบคุณสมบัติประธาน กสทช.นานนับเดือน ทั้งที่ผลสอบ กมธ.ระบุชัดขาดคุณสมบัติ ฝ่าฝืนกฏหมาย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตพลขัย ประธานวุฒิสภา ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อผลตรวจสอบคุณสมบัติของ ศ.คลินิก นพ.สรณ  บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.ที่คณะกรรมาธิการสื่อสาร เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและโทรคมนาคม(กมธ.ไอซีที) ได้สรุปผลตรวจสอบคุณสมบัติแล้วระบุว่าขาดคุณสมบัติ  มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนกฏหมาย ก่อนส่งเรื่องไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อให้จัดทำความเห็นเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯให้ประธาน กสทช.พ้นจากตำแหน่ง

ศ.คลินิก นพ.สรณ  บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.

อย่างไรก็ตามจากการติดตามเรื่องกลับพบว่า ประธานวุฒิสภา ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อเรื้องนี้ จนกระทั่งวุฒิสภาชิกหมดวาระลง การซื้อเวลา ดำเนินการดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 หรือไม่

รายงานข่าวจาก กมธ.ไอซีทีระบุว่า มูลเหตุที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ยื้อผลตรวจสอบคุณสมบัติของประธาน กสทช.เอาไว้กว่า 2 เดือนจนวุฒิสมาชิกพ้นวาระนั้น นายพรเพชรกล่าวว่า

พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา

ตนไม่ได้ปัดภาระหรือโยนเรื่องให้ สว.ชุดใหม่ แต่มองว่า เป็นปัญหาข้อพิพาทภายใน กสทช. และ กมธ.ไอซีทีเพิ่งจะประชุมพิจารณาเรื่องแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 พ.ค. แต่ไม่รู้ว่าได้ส่งมายังประธานวุฒิสภาวันไหน แต่เรื่องเพิ่งจะมาถึงตน

 “ผมไม่ได้ระงับรายงานการตรวจสอบของ กมธ.ไอซีทีต่อกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติประธาน กสทช.อะไรทั้งสิ้น จะระงับได้อย่างไร  แต่ครั้งนี้เขาคงคิดว่าไม่ได้ดั่งใจเขา และคงคิดว่าประธานวุฒิสภาคงเป็นซุปเปอร์แมนที่สามารถทำอะก็ได้  อย่างไรก็ตาม สว.ชุดใหม่มีอิสระ หากเขาจะหยิบยกเอาเรื่องนี้ไปดูแล้วไม่เห็นชอบก็ทำได้ หรือจะเดินหน้าต่อก็ได้” นายพรเพชร กล่าว.

การที่ประธานวุฒิสภาแสดงท่าทีชัดเจน จะส่งไม้ต่อให้วุฒิสภาชุดใหม่พิจารณาดำเนินการแทน ทั้งที่มีเรื่องร้องเรียนอยู่ที่ชุดเดิม และ คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว มีข้อเสนอแนะให้ประธานวุฒิสภาต้องดำเนินการอย่างไรต่อเอาไว้ชัดเจนถือได้ว่าเป็นหน้าที่ของประธานวุฒิสภา ที่จะต้องส่งรายงานไปยังนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น การที่ประธานวุฒิสภาไม่ส่งต่อรายงานผลตรวจสอบคุณสมบัติที่ว่านี้ไปยัง นายกรัฐมนตรี  ในทางกฎหมายย่อมไม่อาจจะพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากเป็นการประวิงเวลาเพื่อให้ประธาน กสทช.ยังคงทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสิ้นสุดวาระ  ถือเป็นการดำเนินการที่ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 หรือ เลี่ยงการทำหน้าที่ของตน ซึ่งประธานวุฒิไม่อาจยกข้ออ้างที่ว่า สว.ชุดนี้กำลังจะหมดวาระได้ เพราะตามมาตรา 20 ของ พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ กำหนดให้เมื่อกรรมการ กสทช. ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 7 หรือ กระทำการฝ่าฝืนตาม มาตรา 8 ให้ดำเนินการส่งไปยังนายกฯ เพื่อทูลเกล้าให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง โดยไม่จำเป็นต้องขอมติของที่ประชุมวุฒิสภาแต่อย่างใด

หากย้อนกลับไปดูรายงานของ กมธ.ไอซีที ที่จัดส่งไปยังประธานวุฒิสภาก่อนหน้านั้น สรุปได้ว่า ศ.คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง กสทช. จริง และกระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามของการดำรงตำแหน่ง กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 มาตรา 7 ข. (12) มาตรา 8 และมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 18 มาตรา 20  ปรากฎตาม “บันทึกการประชุม คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม ครั้งที่ 17/2567”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts