เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 ที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ นัดมอบตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นประธานบริษัทผลิตและส่งออกแป้งมันสำปะหรัง รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นางวรีพร ประธานบริษัท ผู้บริหารของบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ที่ จ.29/2567 ลงวันที่ 18 ก.ค.2567 ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจหน้าที่กระทำการทุจริต ,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
สืบเนื่องจาก ชาวบ้านในพื้นที่ต.หนองบัวศาลา นครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ร้องเรียนกับทนายกฤษฎา ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อ ก.ค.2566
ต่อมาเดือน ก.พ.67 ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แต่งตั้งนายธนดล ที่ปรึกษาฯ ให้เป็นประธานฯ ตรวจสอบการใช้ที่ดิน สปก. จึงพบความผิดปกติการออกเอกสารสิทธิ์ สปก.เอื้อประโยชน์นายทุน โดยมีการให้นอนีมา 13 ถือครองแทน จนมีการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเมื่อ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นปฏิบัติการทวงคืนที่ดิน สปก.โคราช เฟส 1 จับกุมข้าราชการและอดีตข้าราชการ สปก.จำนวน 4 ราย
จากนั้นจึงขยายผลต่อเนื่องเรื่อยมา ก่อนพบว่า เจ้าของโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ที่ ปล่อยน้ำเสียลงสู่ที่ ส.ป.ก. ดังกล่าว นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 4 ราย ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้กระทำผิดทุจริตออกหนังสือครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ให้กับกลุ่มนอมินี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ นางวรีพร ประธานบริษัท รวมถึงเชิญตัวคณะกรรมการบริหารของบริษัท อีกจำนวน 2 คน มาทำการแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน”เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจหน้าที่กระทำการทุจริต ,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นเฟส 2 ในการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิด หลังเฟดแรกก่อนหน้านี้จับกุมไปแล้วจำนวน 4 ราย ส่วนเฟดนี้เป็นการดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดในส่วนของเจ้าของโรงงาน โดยเป็นการออกหมายจับ 1 ราย และ เชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 2 ราย โดยหลังจากนี้ตนพร้อมคณะ จะลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงงานดังกล่าว พร้อมเข้าพบปะพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากทาง บช.ก. ให้ความสำคัญกรณีนี้เป็นอย่างมาก และ อาจต้องมีการพูดคุยกับทางโรงงานเพื่อให้เร่งแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อไม่ให้กระทบกับชาวบ้าน
“สำหรับการสอบปากคำ นางวรีพร กับ คณะกรรมการบริษัทอีก 2 ราย เบื้องต้นทั้งหมดให้การภาคเสธ จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งในส่วนของนางวรีพร ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับนั้น เบื้องต้นหลังเข้ามอบตัวได้ยื่นเงินสดจำนวน 2 แสน ยื่นประกันตัวในขั้นสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ
ต่อมา เวลา 11.30 น.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รอง ผบช.ก. , นายธนดล และนายกฤษฎา ทนายปราบโกง นำ จนท.ตร.บก.ปปป.และ บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. , ป.ป.ท. เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. บริเวณโดยรอบสถานที่ตั้งโรงงานแป้งมันสำปะหลัง เลขที่ 120 หมู่ 4 ถ.ราชสีมา-โชคชัย ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พบว่าบริเวณโดยรอบโรงงานมีการลักลอบปล่อยน้ำเสีย จากบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่ง โดยมีกลุ่มชาวบ้านกว่า 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมกล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจนายธนดลและทนายปราบโกง ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเสียและกลิ่นเน่าเหม็นตลอดจนแมลงวันสร้างความรบกวนให้กับพี่น้องประชาชนมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี แม้จะร้องเรียนไปไม่ว่าจะหน่วยงานของจังหวัดหรือส่วนกลางก็ตามไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยเป็นการร่วมมือกันของตำรวจ บก.ปปป. ตำรวจ บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ จะทำการพูดคุยกับทางโรงงานและตัวแทนชาวบ้านเพื่อหาแนวทางเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
นายธนดล กล่าวว่า สำหรับที่ดิน สปก.โคราช ตรงจุดนี้ 617 ไร่ ได้ทำการยึดคืนกลับมาหมดแล้ว ตามกฎหมายเรามีวิธีการปฏิบัติ เปิดโอกาสให้เขาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน
ความผิดที่พบมีทั้งคดีอาญาและแพ่งตอนนี้เรากำลังตรวจสอบว่าทางแพ่งมีความเสียหายอะไรเกิดขึ้นบ้าง จากนั้นจะนำไปประชุมในคณะกรรมการอีกทีหนึ่ง
ด้าน นายกฤษฎา ทนายปราบโกงกล่าวว่าวันนี้ตนรู้สึกหายเหนื่อย ที่เห็นพี่น้องประชาชนมาแสดงความยินดีและขอบคุณนายธนดลรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ก. ในการปฏิบัติการทวงคืนที่ดิน สปก. จนกระทั้งสามารถจับกุมบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อฉล ที่ดิน สปก รวมทั้งทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างมลภาวะทั้งทางน้ำและอากาศ สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนนับพันครัวเรือนจนบางรายต้องประกาศขายบ้านหนี
วันนี้พี่น้องประชาชนก็ร่วมกันมาแสดงความยินดีที่ได้ที่ สปก คืนมาทำการเกษตรตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงต่อไป
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมากว่า 20 ปีแต่ผู้บริหารของจังหวัดนครราชสีมากลับเพิกเฉยปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากนับพันครัวเรือน ตนขอเรียกร้องวิงวอนไปถึงบรรดาผู้บริหารราชการส่วนจังหวัด รวมทั้งผู้รับผิดชอบฝ่ายปกครองทุกจังหวัดให้ช่วยตรวจสอบดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้