วันนี้ (13 ส.ค 67) เวลา 10.20 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กลุ่มผู้เสียหาย ได้ร่วมตัวกัน แจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีที่มีบุคคลที่แฝงตัว อาศัยการสมัครเข้าเรียนหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงเพื่อที่จะตีสนิทกับผู้เสียหายที่มีฐานะร่ำรวย ได้หลอกลวงขอยืมเงินและชักชวนให้เพื่อนสมาชิกที่เรียนด้วยกันลงทุน โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงเพื่อจูงใจให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ปัจจุบันมีผู้เสียหายมากกว่า 30 คน ที่ได้โอนเงินให้รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้าน บาท และคาดว่ายังมีเหยื่ออีกหลายรายยังไม่รู้ตัวและกำลังถูกบุคคลที่ว่านี้หลอกลวงเช่นกัน จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้จะมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กับ ผู้ต้องหา 2 ราย ที่แอบแฝงเข้าไปในคอร์สอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหลายๆคอร์สโดยจะทำตัวไปตีสนิทกับบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยและมีหน้าตาในสังคม ใช้ผลประโยชน์ทางธุรกิจในการหลอกล่อหากให้ยืมเงินจะจ่าย เป็นเงินปันผล ร้อยละ 4 ต่อเดือน มีผู้เสียหายหลายรายที่หลงเชื่อ ใช้วีธีหลอกลวงว่า บริษัททำธุรกิจหลายอย่าง เชิญชวนให้ผู้เสียหาย มาร่วมลงทุน คือขอกู้ยืมเงินกับผู้เสียหาย และจะจ่ายเป็นผลประโยชน์แทน
น.ส.จรรยาพร กล่าวว่า ตนและครอบครัว สูญเสียเงินทั้งหมด 38 ล้านบาท พฤติการณ์ของผู้ต้องหา จะไปสนิทกับเพื่อนตน แล้วไห้เพื่อนมารู้จักกับตน น้องสาวตนจะติดต่อกับเขาโดยตรง ผู้ต้องหารายนี้ มาขอยืมเงินตนเมื่อปี 2561 จำนวน 3 แสนบาทเพื่อเอาไปลงทุนกับบริษัท อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3% ภายใน 1 สัปดาห์ เขานำเงิน 3 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยมาให้ตนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นเขาก็พยายามไปตีสนิท กับครอบครัวตน และได้ยืมเงินตนมาเรื่อยๆ หลายล้านบาท ได้นำชื่อบริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศ อ้างว่าตนลงทุนจัดหาพนักงานให้บริษัทต่างๆ โดยใช้วิธีไปขายงานให้กับบริษัทที่มีชื่อเสียง เพื่อเอาคอนแทค สัญญาจากบริษัทนั้นมาหลอกลวงให้น่าเชื่อถือ ว่าทำสัญญากับบริษัทนั้นจริงๆ ช่วงเกิดสถานการณ์ โควิด -19 เขาก็เริ่มหายไปติดต่อก็ยาก แต่ตนก็เข้าใจว่า เพราะสถานการณ์ โควิด เขาอาจจะติดขัด ตนไม่คิดอะไร จนมาปี 2566 เขาใช้วิธีเดิม นำบริษัทดังๆ มาหลอกให้ลงทุนอีก โดนไป 9 ล้านบาท พยายามไม่จ่ายทั้งต้นทั้งดอก แลพอ้างว่าหากไม่โอนเงินมาให้เงินที่อยู่กับผู้ถูกกล่าวหาจะหายไป ตนจึงได้โอนไปเพิ่ม หลังจากนั้นก็เลื่อนการจ่ายเงินไปเรื่อยๆ และอ้างว่าบริษัทคู่ค้าที่มีคอนแทคจ่ายเงินล่าช้า แต่เมื่อตนติดต่อไปทางบริษัทคู่ค้ากลับพบว่าไม่มีการติดเงินจริง จึงทราบแล้วว่าตนถูกหลอก โดยรวมความเสียหายของตนอยู่ที่ 38 ล้านบาท
นอกจากนี้ตนยังทราบว่ามีการโกงเงินประกันสังคมและเงินกยศ.เด็กที่ทำงานเป็นPCในบริษัท โดยมีการเก็บเงินดังกล่าวทุกเดือนไปจำนวนกว่า 100 คน แต่ไม่มีการจ่ายให้กับประกันสังคมและเงินกยศ.ให้กับเด็ก ตนมีหลักฐานและมีการยืนยันจากเด็กเหล่านั้น
น.ส.จรรยาพร กล่าวอีกว่า จากนั้นตนจึงได้ไปจ้างบริษัทนักสืบเอกชนให้ไปตามทวงหนี้ และพบว่ามีผู้เสียหายได้ไปจ้างบริษัทเอกชนที่ตามทวงหนี้กับลูกหนี้รายนี้เช่นเดียวกัน จึงพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 30 รายที่โดนในลักษณะเดียวกัน และตนยังทราบมาว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นแพทย์ถูกหลอกยืมเงินสูญเงินไปกว่า 90 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายอื่นๆ ถูกหลอกยืมเงินในลักษณะเดียวกัน สูญเงินไปคนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้มีคนไปแจ้งความไว้บ้างแล้วที่สน.วังทองหลางวันนี้ตนพร้อมผู้เสียหายอีกหลายรายจึงเดินทางมาแจ้งความกับผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยา และยังมีผู้ร่วมขบวนการคือน้องสาว แต่ตอนนี้แจ้งความไว้แค่กับสามีภรรยาเท่านั้น เบื้องต้นจะให้ดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน และ กู้เงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน